ความตระหนักในเรือนร่างและความมีอิสระของการเคลื่อนไหว คือหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์ผลงานของกาเบรียล ชาเนล (Gabrielle Chanel) มาโดยตลอด ในช่วงเริ่มแรก เธอได้ให้นิยามลุคของเธอด้วยเสน่ห์ในสไตล์สปอร์ต และย้อนไปตั้งแต่ช่วงต้นปี 1921 เธอได้สร้างอาเตอลิเยร์ “กีฬา” ขึ้นภายในโอต์กูตูร์เฮาส์ของเธอ
ในปี 2024 แบรนด์ชาเนลภูมิใจนำเสนอคอลเลคชั่น “Haute Joaillerie Sport” ที่ออกแบบโดยปาทริซ เลอเกโร ผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์ไฟล์จิวเวลรี่ของชาเนล
การผสานรวมความสง่างามเข้ากับสมรรถนะโดยผ่านความงดงาม ทักษะชำนาญการในเชิงเทคนิค และการคัดเลือกอัญมณีอย่างพิถีพิถัน ทำให้คอลเลคชั่นนี้เฉลิมฉลองเสน่ห์ความงามสไตล์สปอร์ตของชาเนลเป็นครั้งแรก และเน้นที่พลังอันมีชีวิตชีวาที่กำหนดนิยามความสวยของผู้หญิง นั่นก็คือ การเคลื่อนไหว
เส้นสายที่บางเฉียบและประณีตเพื่อสร้างสรรค์ผลงานจิวเวลรี่ท ี่โอบรับสรีระของร่างกาย เฉกเช่นเดียวกับชุดกีฬา ลายเชฟรอนที่ชวนให้นึกถึงจังหวะและความเร็ว ขณะที่รูปทรงของเครื่องประดับได้รับการออกแบบให้เพรียวบาง เค้าโครงดูสะอาดตาและ เรียบง่ายกลมกลืน เฉดสีที่เลือกช่วยเสริมลุคของพลังที่ไม่หยุดนิ่ง การออกแบบลวดลายและกราฟิกนี้เป็นการนำเอาสัญลักษณ์ของกาเบรียล ชาเนลในสไตล์สปอร์ตมาตีความใหม่ นั่นคือ เลข 5 ในลวดลายกราฟิกของ “โครโนมิเตอร์”, สิงโตที่นำมาประดับไว้บนโล่, ดวงดาวเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ในขณะที่โลโก้ชาเนลถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรูปแบบของลายพิมพ์แบบโอเพ่นเวิร์กของ Haute Joaillerie ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนและดีไซน์สไตล์โมดูล ทำให้ชิ้นงานที่ประกอบด้วยกลุ่มอัญมณีนี้มีนํ้าหนักเบาเหมาะแก่การสวมใส่และมอบอิสระในการเคลื่อนไหว
แนวทางของทักษะชำนาญการเชิงเทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานนี้จิวเวลรี่นี้ มาจากมุมมองในแง่ฟังก์ชัน แล้วจึงสร้างสรรค์ผลงานอันงดงามที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร กลไกการล็อคได้สร้างพื้นผิวแนวระนาบแบบกราฟิก ในขณะที่การออกแบบให้สามารถปลดเครื่องประดับออกได้อย่างรวดเร็วนั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากอุปกรณ์กีฬาที่กลายมาเป็นตะขอจริง ซึ่งไม่ต้องแอบซ่อนอีกต่อไปแต่วางตำแหน่งไว้ตรงกลางเครื่องประดับแทน นั่นคือ ตะขอนิรภัยที่ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงแบบเลข 5 หรือตะขอแบบหมุนที่หยิบยืมมาจากสไตล์ของกระเป๋า 2.55 ที่เป็นไอคอนิกของแบรนด์ และชุดตัวล็อคสไตล์บัคเกิลและตัวคล้อง
ลายควิลท์ของชาเนลถูกนำมาตีความใหม่ในสไตล์ของเส้นใยคุณภาพสูงในแบบโอเพ่นเวิร์ก ซึ่งกลายเป็นผ้าตาข่ายที่ย ืดหยุ่นและตกแต่งด้วยลวดลายแบบสปอร์ต ในทำนองเดียวกัน ชาเนลก็ได้พัฒนาสายโซ่ทิวบ์ที่คล้าย “เส้นเชือกอุปกรณ์กีฬา” ขึ้นมาโดยเฉพาะ ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้ก็คือ การผสานรวมวัสดุไฮเทคอันมีค่า นั่นคือ อลูมิเนียมที่เบาและทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งออกแบบสีสันใหม่ๆ ให้เข้ากับเส้นใยคาร์บอน วัสดุที่มีความหนาแน่นตํ่าและมีความทนทานสูง เพื่อสร้างสรรค์กำไลแบบสปอร์ตที่มีนํ้าหนักเบา มีการเคลือบเงาในเฉดสีต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสีของอัญมณีอันลํ้าค่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คอลเลคชั่น "Haute Joaillerie Sport" นำเสนอกลุ่มอัญมณีอันลํ้าค่าที่ชาเนลภาคภูมิใจ ซึ่งแสดงถึงสีสันอันงดงามของอัญมณีที่เปล่งประกายเจิดจรัส
ชุดเครื่องประดับแซฟไฟร์แคชเมียร์ทั้งห้าชุดในผลงานนี้ เป็นผลจากความพยายามทุ่มเทเสาะหามาเป็นเวลานานหลายปี ซึ่ง เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของเรา การเล่นสีตัดกันแบบทูโทนหรือทรีโทนเป็นการออกแบบให้อัญมณีแบบมีสีได้เปล่งประกายสีสันอย่างเต็มที่ ในขณะที่รูปทรงของอัญมณีก็เน้นความงดงามทางสรีรศาสตร์ของคอลเลคชั่นโดยรวม
คอลเลคชั่น “Haute Joaillerie Sport” เน้นที่การยกย่องความงามและแพสชั่นในกีฬา ความท้าทาย และชัยชนะ การผสานรวมความกล้าหาญ อิสระในเชิงสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต ทักษะชำนาญการเชิงเทคนิคในระดับผู้เชี่ยวชาญ และอัญมณีอันลํ้าค่าโดดเด่น คอลเลคชั่นที่เรียบหรูและทันสมัยนี้จ ึงเป็นการเฉลิมฉลองเสน่ห์ความงามสไตล์สปอร์ตที่ฝังรากลึกในประวัติศาสตร์ของชาเนล ผลงานสร้างสรรค์นี้เน้นที่อ ิสระของร่างกายและความสง่างามในยามเคลื่อนไหว
#CHANELHighJewelry #CHANELHauteJoaillerieSport
ปาทริซ เลอเกโรเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์ไฟน์จิวเวลรี่ของชาเนล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 หลังจบการศึกษาจาก École Boulle สาขางานฝีมือด้านการแกะสลัก และจาก Institut National de Gemmologie ปาทริซได้เข้าทำงานที่ Cartier เป็นเวลา 6 ปี ต่อด้วย Van Cleef & Arpels เป็นเวลา 11 ปี
นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ปาทริซ เลอเกโรได้ออกแบบคอลเลคชั่นไฟน์จิวเวลรี่และไฮจิวเวลรี่ทั้งหมดของชาเนล รวมถึง คอลเลคชั่น Precious Objects เช่น Academician Sword for William Christie และเครื่อ งประดับที่สั่งทำพิเศษทั้งห ในการออกแบบคอลเลคชั่นไฟน์จิวเวลรี่และไฮจิวเวลรี่นั้น ปาทริซมักท่องไปในโลกส่วนตัวของกาเบรียล ชาเนล (Gabrielle Chanel) เพื่อนำสัญลักษณ์ต่างๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นดาวหาง ขนนก ดอกคามิลเลีย มัดรวงข้าวสาลี ลายควิลท์ และไข่มุก
นอกจากนี้ เขายังได้นำสิงโต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำราศีสิงห์ของมาดมัวแซล ชาเนล มาเป็นต้นแบบในการรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงของแบรนด์อีกด้วย
ปาทริซ เลอเกโรและสตูดิโอสร้างสรรค์ไฟน์จิวเวลรี่ของชาเนลได้ทลายกรอบแห่งความคิดสร้างสรรค์ด้วยผลงานคอลเลคชั่น ไฮจิวเวลรี่ TWEED DE CHANEL และ N°5 โดยจารึกผ้าและนํ้าหอมลงในคลังมรดกอันลํ้าค่าของเครื่องประดับอัญมณีชั้น สูงของชาเนลเป็นการถาวร
"ขบวนพาเหรด: ความขลังของท้องถนนที่เห็นซึ่งความแตกต่าง ใครที่คุณจะพบเจอ อะไรที่อยู่หัวมุมของถนน ใครที่จะทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความอัศจรรย์ใจเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่มีความสำคัญ" กล่าวโดย Matthieu Blazy
The Fall/Winter 2023 collection by Miuccia Prada and Raf Simons reconceptualizes, reconsiders and ultimately rediscovers ideas of beauty. Beauty here is determined not by aesthetic, but by action - garments are signs,
ลาย Check ถูกนำเสนอผ่านสีสันอันสะดุดตา และการตัดเย็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่มจนไปถึงไอเท็มไหมพรม เช่นเดียวกัน ลาย Equestarian Knight Design (EKD) ก็ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น Trench Coat ทรงโอเวอร์ไซส์ตกแต่งด้วยปกขนสัตว์เทียม Car Coat ถูกสรรค์สร้างขึ้นใหม่ ส่วนแจ็กเก็ต Duffle และ Aviator มาในซิลูเอตที่นุ่มนวลขึ่น
Inspired by the iconic elongated silhouettes of the 1940s, this new collection embodies the SIRIVANNAVARI essence: feminine with a masculine silhouette, prints, artisanal techniques and craftsmanship, and a Thai aesthetics touch.
Moschino's Fall 2023 Donna collection fuses Salvador Dalí-esque surrealism and aristo-punk flair to deliver a new twist on the house’s iconic aesthetic. From oversized spikes to allover bijoux
Balenciaga นำเสนอคอลเล็กชั่นฤดูหนาวปี 2023 บนพื้นที่สไตล์มินิมอลที่ปกคลุมด้วยผ้าแคนวาส เชื่อมโยงแนวคิดอย่างยั่งยืนที่สามารถทำให้โฟกัสคอลเล็กชั่นได้อย่างชัดเจน การตัดเย็บครั้งนี้เป็นการแยกชิ้นส่วนกางเกง และประกอบมันขึ้นมาใหม่ โดยการนำขอบกางเกงมารังสรรค์บริเวณชายเสื้อหรือแขนเสื้อ
คอลเล็กชั่นนี้สร้างสรรค์ด้วยความเข้าใจและความภาคภูมิใจในตัวเอกลักษณ์ของ Versace โดยเราได้นำประสบการณ์จาก ATELIER ไปจนถึงเสื้อผ้า ready – to – wear อาทิ การร่างโครงสร้าง การตัดเย็บเสื้อผ้า และการเลือกใช้วัสดุผ้า โดยคอลเล็กชั่นนี้ถือเป็นการ เฉลิมฉลองงานฝีมือและทำความเข้าใจลักชัวรี่อย่างถ่องแท้
Finding a new ingenious way of talking about feelings and emotions that can connect us with a country and its culture is precisely what Maria Grazia Chiuri wished to accomplish in this Dior Fall 2023 collection, with a view to explaining the collaboration, work relations and friendship linking her for many years to India and Karishma Swali, who directs the Chanakya ateliers and the Chanakya School of Craft, in Mumbai.