ถือเป็นการเปิดตัวการทำงานคอลเล็กชั่นแรกของคิม โจนส์ กับ FENDI ซึ่งยังสะท้อนให้เห็นถึงความโรแมนติกและความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้กาลเวลาในแบบฉบับของ FENDI เช่นเดิม โดยในคอลเล็กชั่นกูตูร์ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2021 ของ FENDI ในครั้งนี้คิม โจนส์ นำเอาแรงบันดาลใจจากกลุ่มนักเขียนอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในชื่อกลุ่มบลูมส์เบอรี่ (Bloomsbury Group) ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเวอร์จิเนีย วูล์ฟ (Virginia Woolf) รวมไปถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของ FENDI แบรนด์จากกรุงโรมประเทศอิตาลี มาหลอมรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งแม้จะดูแตกต่าง แต่ทว่าทั้งสองสิ่งนั้นมีสิ่งที่เกี่ยวพันร่วมกันอยู่ ทั้งความคิดสร้างสรรค์ที่ก่อกำเนิดมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเวอร์จิเนีย วูล์ฟ และพี่สาว วาเนสซ่า เบลล์ (Vanessa Bell) และท่วงท่าภาษาแห่งความงดงามทางศิลปะของประติมากรรมในแบบอิตาลี โดยทั้งสองกลายมาเป็นรากฐานในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้ของ FENDI เหมือนดังเช่นที่เวอร์จิเนีย วูล์ฟ เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง Orlando ว่า “ความทรงจำนั้นประหนึ่งช่างเย็บผ้าที่ทำงานตามอำเภอใจ”
แรงบันดาลใจหลักของคอลเล็กชั่นก็คือหนังสือเรื่อง Orlando อันเป็นดั่งจดหมายรักของเวอร์จิเนีย วูล์ฟ ที่เขียนถึงวิต้า แซควิลล์-เวสต์ (Vita Sackville-West) ในปี 1928 สามปีหลังจากก่อตั้งแบรนด์ FENDI โดยประเด็นทางความคิดในหนังสือเล่มนี้ได้รับการถ่ายทอดสู่การสร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องประดับ เสื้อผ้าในสไตล์เฟมินีนและมัสคิวลีนที่ผสมผสานสไตล์แอนโดรจินีได้อย่างลงตัว รูปแบบหนังสือที่ถูกนำไปสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าคลัตช์ ข้อความในหนังสือที่ถูกนำไปใช้บนกระเป๋าถือทำจากมุกหรือรองเท้าบู๊ตหนัง นอกจากนี้ข้อความในจดหมายที่ส่งหากันระหว่างเวอร์จิเนีย วูล์ฟ และวิต้า แซควิลล์-เวสต์ ตลอดกว่าทศวรรษยังถูกนำมาอ่านโดยเพื่อนและครอบครัวของ FENDI ประกอบกับเสียงดนตรีโดยการประพันธ์ของแม็กซ์ ริชเทอร์ (Max Richter) เป็นสกอร์ประกอบโชว์ในครั้งนี้อีกด้วย
สิ่งต่างๆ ที่ถูกค้นพบที่ฟาร์มบ้านชาร์ลสตัน ที่ซัสเซ็กซ์ สถานที่อันเป็นที่นัดพบกันของกลุ่มนักเขียนบลูมส์เบอรี่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ที่คิม โจนส์ ใช้เวลาในช่วงวัยเด็กของเขา ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้โดยมีการปรับปรุงใหม่ ทั้งรองเท้าบู๊ตประดับลูกปัด หรือรองเท้าส้นสูงเพนท์มือ ลวดลายภาพวาดบนผนังอันเป็นผลงานของวาเนสซ่า เบลล์ และดันแคน แกรนท์ (Duncan Grant) ถูกนำมาใช้เป็นลวดลายการปักบนชุดราตรี
“ผมชอบคนในครอบครัวนี้ โดยเฉพาะสองพี่น้องทั้งเวอร์จิเนียร์และวาเนสซ่าผู้ซึ่งเป็นคนที่ก้าวหน้าอย่างมาก ผมชื่นชมวิถีชีวิตอิสระที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง และงานศิลปะที่พวกเขาทิ้งไว้ให้กับโลกใบนี้” คิม โจนส์ กล่าว
หนังสือที่พิมพ์ด้วยมือ สันปกหินอ่อน ตีพิมพ์โดยเวอร์จิเนียและลีโอนาร์ด วูล์ฟ โดยสำนักพิมพ์ Hogarth Press ถูกนำมาจัดแสดงในนิทรรศการที่จัดขึ้นควบคู่ไปกับโชว์ครั้งนี้ด้วย รวมไปถึงผลงานประติมากรรมของแบร์นินีจากพิพิธภัณฑ์ บอร์เกเซ จากกรุงโรม อันงดงามหยดย้อยด้วยรายละเอียดของเส้นสาย ซึ่งสิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นบนเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ผ่านวิธีการจับเดรปอีกด้วย ทั้งสองอย่างนี้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผสมกลมกลืน สิ่งที่น่าทึ่งก็คือภาพวาดในสไตล์อิตาเลี่ยนคลาสสิกของสวนบอร์เกเซและในแบบโอลด์มาสเตอร์ ผลงานของวาเนสซ่า เบลล์ที่แขวนอยู่บนผนังในบ้านชาร์ลสตัน
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นในงานออกแบบคอลเล็กชั่นนี้ทั้งการถักทอผ้าแจ็กการ์ด ชุดราตรีผ้าไหม เฟอร์สานแบบ Intarsia หรือการประดับด้วยลูกปัดบนงานเทเลอร์ รวมไปถึงหินอ่อนอันเป็นองค์ประกอบหลักในการสื่อสารของคอลเล็กชั่นนี้
นอกจากนี้ผลงานอันเป็นประวัติศาสตร์ของ FENDI ยังถูกนำกลับมาใช้ในแบบฉบับที่ร่วมสมัยมากขึ้นผ่านการสร้างสรรค์ของคิม โจนส์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานในอดีตของ FENDI ไม่ว่าจะเป็นภาพสเก็ตช์หรือในส่วนของการประดับตกแต่ง อย่างริบบิ้นกำมะหยี่ของกระเป๋าวินเทจถูกนำมาดีไซน์ใหม่ ลวดลายโมโนแกรมของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ในคอลเล็กชั่นสุดท้ายของเขาก็ถูกนำมาทำเป็นลวดลายลูกปัดบนรองเท้าบู๊ต
ความสำคัญของคำว่าครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวโดยกำเนิด หรือคนที่เราเลือกมาเป็นครอบครัว เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในโชว์ครั้งนี้ ที่แสดงให้เห็นผ่านการคัดเลือกโมเดลในคอลเล็กชั่นนี้ ซึ่งแต่ละคนได้เข้าไปอยู่ในห้องกระจกแต่ละห้องอันเป็นเซ็ตติ้งบนรันเวย์โชว์ และได้เปลี่ยนห้องกระจกเหล่านั้นให้กลายเป็นห้องส่วนตัวของแต่ละคน
“FENDI คือตัวแทนของงานฝีมือที่มีคุณภาพสูงสุดและความเป็นเลิศ และในขณะเดียวกันก็หมายถึงความเป็นครอบครัวอีกด้วย ตอนนี้ FENDI ถือเป็นการทำงานในรุ่นที่สาม และยังคงเดินตามขนบของแบรนด์ FENDI และผมเองเป็นแขกรับเชิญในการทำงานในฐานะรุ่นที่สี่ ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้หญิงที่เข้มแข็งและทรงพลังที่ผมรักและเคารพ และต้องการนำพลังของพวกเขามาสู่สิ่งที่ผมทำ” คิม โจนส์ กล่าว
Dynamic, modern, new. The Prada Linea Rossa Fall/Winter 2020 campaign celebrates the new active collection with an exceptional cast of young and international talents from different parts of the world - globally in uential gures, cultural game-changers.
AW20 celebrates the innate strength and style of women throughout British history - and their legacy in British culture. The collection sees rural codes reimagined in today’s urban settings, bringing a soft nostalgia to the city’s utilitarian aesthetic.
An impossible spectacle - a physical event mediated through the virtual, a community brought together through distance. A paradox. For her Miu Miu Spring/Summer 2021 collection, Miuccia Prada draws a global community of women today, ...
Burberry เผยโฉมกระเป๋า Olympia กระเป๋า Unisex ซิกเนอเจอร์ใบใหม่ของแบรนด์ Burberry โดยปรากฏครั้งแรกบนรันเวย์ Autumn/Winter 2020 ออกแบบโดย Riccardo Tisci สร้างสรรค์จากหนังอิตาลีและออกแบบรูปลักษณ์ให้เหมือนกับพระจันทร์เสี้ยว ...
นิวยอร์ก 22 กันยายน 2020: Coach ได้ประกาศถึงการเปิดตัวคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2021 ภายใต้แนวคิด “Coach Forever” คอลเลคชั่นนี้ได้หลอมรวมอดีตและอนาคตเข้าไว้ด้วยกันด้วยการนำเสนองานดีไซน์ที่หลากหลายซึ่งมีทั้งผลงานออกแบบชิ้นใหม่ ชิ้นงานวินเทจและงานดีไซน์ชิ้นมรดกของ Coach ...
Burberry ขอแนะนำ Essentials Glow Palette พาเลทแต่งหน้าสีสันสดใส 3 ประสิทธิภาพในหนึ่งเดียว สามารถเป็นทั้งคอนทัวร์ แต่งแต้มสีสันและไฮไลท์ ด้วยสูตรเนื้อครีมสบายผิวและผงแป้งอ่อนละมุน เนื้อสัมผัสบางเบาจะผสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกับผิว ให้คุณเนรมิตลุคเปล่งประกายในรูปแบบต่างๆ ...
It began with a thought of British summertime; embracing the elements with a trench coat on the beach mixing with the sand and the water. I envisioned the people of this space, like the lighthouse keeper, and a love affair between ...