FENDI คอลเล็กชั่น Autumn/Winter 2021

PreviousNext

คอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปประจำฤดูกาล Autumn/Winter 2021 โดย คิม โจนส์ (Kim Jones) สำหรับ FENDI (เฟนดิ) เปิดนิยามบทใหม่ผ่านมุมมองที่แสดงถึงความเคารพต่อกฎเกณฑ์และกลุ่มสตรีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญสำหรับแฟชั่นเฮาส์แห่งนี้ จากภาพร่างของอิสตรีและคุณค่าแห่งหัตถศิลป์ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สะท้อนชื่อเสียงของ FENDI มาอย่างยาวนาน นำมาสู่ผลงานล่าสุดที่เป็นการเฉลิมฉลองและสดุดีให้แก่ความงามสง่าในแบบฉบับชาวอิตาเลียนที่ทรงคุณค่าในสายตาของชาวโลก

ตู้เสื้อผ้าของห้าพี่น้องแห่งตระกูลเฟนดิ (the five Fendi sisters) เป็นแหล่งที่มาของข้อมูลสำคัญและเป็นภาพร่างแห่งจินตนาการตั้งต้นในการออกแบบผลงานสำหรับฤดูกาลล่าสุด อาทิ เสื้อแขนทรงระฆัง ขนมิ้งค์ฟอกและตัดต่อเข้ากับหนังกลับ และชุดทำงานลายพินสไตรป์ ณ บัดนี้ได้ถูกแปลงโฉมโดยการเปลี่ยนวัสดุในการตัดเย็บมาเป็นผ้าไหม ผ้าสำหรับตัดเชิ้ต หรือผ้าวูลโดยปรับสัดส่วนให้มีความลงตัวมากกว่าเดิม เสื้อแจ็ตเก็ตยูทิลลิแทเรียล (utilitarian) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยูนิฟอร์มที่​ ซิลเวีย เวนตูรินิ เฟนดิ (Silvia Venturini Fendi) สวมใส่ในชีวิตประจำวันสู่การยกระดับด้วยการออกแบบใหม่ที่หรูหรายิ่งขึ้นด้วยการใช้วัสดุอย่างขนมิ้งค์ “ครอบครัวเฟนดิคือตระกูลของผู้หญิงที่ชาญฉลาดและทำงานอย่างหนัก นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการสรรเสริญตระกูลผู้ทรงอำนาจ” คิม โจนส์ กล่าว เสื้อแจ็กเก็ตผ้าวูลสองชั้นและผ้าขนอูฐ ไปจนถึงเสื้อถักขนมิ้งค์ หรือผ้าพันคอวูลชายพู่ที่ใช้งานได้จริงและเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทั่วโลกถวิลหายังถูกดัดแปลงรูปแบบการใช้งานให้กลายเป็นเสื้อเชิ้ตจับเดรปและชุดกระโปรง “ผมน้อมรับฟังความต้องการของผู้หญิงที่น่าทึ่งทั้งสองคนซึ่งผมรู้จักและร่วมงานด้วย ข้อดีของคอลเล็กชั่นนี้คือการได้ค้นพบสิ่งที่เก๋ไก๋ และวิถีการออกแบบผลงานที่เหนือกาลเวลา”

รายละเอียดที่ได้รับอิทธิพลมาจากผลงานซึ่งถือเป็นมรดกที่ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) ทิ้งไว้ คือตัวอักษรย่อลายโมโนแกรม คาร์ลิกราฟี (Karligraphy) ที่เราสามารถพบได้ทุกหนแห่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งรองเท้า FENDI First ที่หลอมรวมรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมเข้ากับการออกแบบส้นรองเท้า เป็นการต่อยอดมาจากคลังภาพสเก็ตช์โดยนำมาปรับรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัย ในขณะเดียวกันองค์ประกอบสำคัญจากคอลเล็กชั่นกูตูร์โดย คิม โจนส์ ยังกลับมาปรากฏอีกครั้งทั้งลวดลายหินอ่อนบนชุดกระโปรง การประดับด้วยดอกกุหลาบผ้า และการนำผ้าออแกนซ่ามาตกแต่งบนกระโปรงทอลาย

งานหัตถศิลป์ชั้นเลิศที่รังสรรค์โดยทีมช่างจากอาเตลิเยร์ของ FENDI ปรากฎในรูปแบบของรายละเอียดที่มีให้เห็นอย่างชัดเจนในทุกกระเบียดนิ้ว อาทิ โค้ตขนมิ้งค์ลายก้างปลาที่มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบายด้วยการปรับโครงสร้างให้รับกับสรีระ การปักฉลุลวดลายบนผืนหนัง การใช้เทคนิคเลเซอร์เจาะวัสดุให้เกิดเป็นลายคาร์ลิกราฟี เทคนิคการเย็บแบบเซลเลอเรีย (Selleria) ถูกนำมาใช้ในการตัดเย็บบนเทรนช์โค้ตผ้ากาบาดีน โค้ตผ้าแคชเมียร์สองชั้น และเครื่องประดับหนัง สิ่งเหล่านี้สะท้อนความประณีตในการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพที่ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสได้ “ความสนุกไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่สีสันสดใสเสมอไป บางทีอาจเป็นการที่เราได้ปลดปล่อยให้ตัวเองทำอะไรที่ดูหรูหราฟู่ฟ่า เพื่อเป็นการตอบสนองความพึงพอใจของตน” คิม โจนส์ กล่าว

ผลงานคอลเล็กชั่นนี้จึงเป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้หญิงดังที่กล่าวมา เสื้อผ้าที่มอบความรู้สึกพิเศษให้ผู้หญิงธรรมดา เปลี่ยนพวกเธอให้ดูทรงพลังด้วยอาภรณ์อันแสนหรูหรา

กระเป๋า
นอกจากในส่วนของคอลเล็กชั่นเสื้อสำเร็จรูปแล้ว ยังมีการนำเสนอเครื่องหนังที่เป็นการเปิดนิยามบทใหม่ของแบรนด์ด้วยเช่นกัน การปรากฏโฉมเป็นครั้งแรกของ FENDI First ภายใต้การดูแลโดย ซิลเวีย เวนตูรินิ เฟนดิ ที่เป็นการสดุดีแก่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเฮาส์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความขบถในตัว ด้วยรูปทรงของอักษรย่อ Fendi แบบเอียงเป็นเฟรมกระเป๋าถือ มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดกว้างพอที่จะใส่แท็บเล็ตได้ ไปจนถึงขนาดจิ๋วที่สามารถสะพายเป็นเครื่องประดับ ตัดเย็บด้วยวัสดุคุณภาพ อาทิ เชียร์ริ่ง (Shearling) หนังวัว และหนังเอ็กโซติก

อีกทั้งยังมีการนำเสนอซิลลูเอ็ตใหม่ ๆ ของกระเป๋า เช่น กระเป๋าโท้ท FENDI Way และกระเป๋าสะพายไหล่ FENDI Touch ในส่วนของกระเป๋ารุ่นคลาสสิกอย่าง Peekaboo และ Sunshine Shopper มาในรูปโฉมใหม่ โดยถูกปรับสัดส่วนให้ต่างไปจากเดิม และตกแต่งด้วยลายละเอียดแบบเซลเลอเรีย (Selleria)

ฤดูกาลนี้ FENDI ยังได้ริเริ่มโครงการร่วมมือกับเหล่าช่างฝีมือจากแต่ละภูมิภาคของประเทศอิตาลีทั้งสิ้น 20 แห่ง เพื่อร่วมกันออกแบบ Baguette กระเป๋ารุ่นไอคอนิกของแบรนด์ โดยใช้ความเป็นเลิศทางศิลปะแห่ง กัมปาเนีย (Campania) ให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่ผลิตแบบจำนวนจำกัด เช่นเดียวกับการใช้เทคนิคการต่อลายไม้ (wood inlays) อันสลับซับซ้อนที่ค้นพบในอารามเบเนดิกตินราวศตวรรษที่ 6 ให้กลายเป็นรูปแบบของวีเนียร์ (veneer) ขึ้นทรงให้ Baguette ที่มีลวดลายดอกไม้สไตล์ศิลปะบาโรก

จิวเวลรี
เดลฟินา เดเรททริชซ์ เฟนดิ (Delfina Delettrez Fendi) แนะนำจิวเวลรีใหม่ล่าสุด FENDI O’Lock ที่เป็นการพัฒนาโลโก้ FENDI ให้กลายเป็นสายล็อกคาราบิเนอร์รูปทรงกราฟิกทันสมัย มาพร้อมลูกเล่นแม่กุญแจที่สามารถปลดล็อกได้และยังมีจี้รูปครั่งประทับตราสัญลักษณ์ คาร์ลิกราฟี มาพร้อมสร้อยคอโซ่สีทอง และกำไลข้อมือโลหะหุ้มด้วยแผ่นหนังและตกแต่งรายละเอียดเซลเลอเรีย (Selleria) เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของผู้หญิงที่ได้รับพลังอันเปี่ยมล้นจาก FENDI