HERMÈS Men Ready T0 Wear Spring Summer 2022

PreviousNext

คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของความเบาสบาย ผ่อนคลาย และความเป็นอิสระตอบสนองต่อความปรารถนาในการออกไปใช้ชีวิตท่องโลกกว้างภายนอก โดยมีการใช้เนื้อผ้าที่หลากหลายผสมผสานไปกับนวัตกรรมเชิงเทคนิคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกด้านงานหัตถศิลป์ของ Hermès

ความละเอียดซับซ้อนและความคิดสร้างสรรค์หลอมรวมกันจนเกิดเป็นลุคใหม่ กระดาษได้กลายมาเป็นเนื้อผ้า ส่วนผ้า Toilbright ของ Hermès ถูกนำมาผสมผสานกับผ้าคอตตอนได้อย่างลงตัว ตลอดจนหนังที่ถูกนำมาเติมเต็มให้มีชีวิตชีวาด้วยสีสันแห่งฤดูร้อนและการปักเดินเส้นลายกราฟฟิก รูปทรงของเสื้อผ้าที่ใช้ศิลปะภาพลวงตา 3 มิติ (trompe-l’oeil) ปรากฏให้เห็นบนเสื้อโอเวอร์เชิ้ต, แจ๊กเก็ต-คาร์ดิแกน (double jacket-cardigan), โค้ท และแจ๊กเก็ตพาร์กา ซึ่งใช้วัสดุสองชนิดที่ต่างกัน

การผสมผสานแบบไฮบริด นำไปสู่นิยามแห่งความสง่างามครั้งใหม่ ที่มาพร้อมกับรูปทรงของเสื้อผ้าซึ่งช่วยมอบพลังและความคล่องตัว ภายใต้โครงสร้างเสื้อผ้าสไตล์ลำลองที่สามารถสวมใส่ในช่วงเวลากลางวัน แต่แฝงไว้ซึ่งความสง่างามสำหรับยามค่ำคืน นอกจากนี้นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความละเอียดแม่นยำยังถูกนำมาใช้กับลายอันเป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งด้วยวิธีการ กัดลาย ทำให้เบลอ ฉลุ หรือ ปรับเปลี่ยนด้วยเทคนิคร่วมสมัย

การเล่นกับความแตกต่างได้อย่างสอดคล้องกลมกลืน ช่วยเน้นสีสันให้โดดเด่นยิ่งขึ้น สีเขียวเซลาดอน (celadon green), สีเขียวสาหร่าย (algae), สีน้ำตาลช็อคโกแลต, สีเทาคาร์บอน ถูกนำมาผสมผสานกับความนุ่มนวลของสีชมพูอมเทา, สีเทาหิน (stone-grey) และสีเหลืองผ้าไหมดิบ (raw-silk) ในขณะที่สเวตเตอร์เนื้อนุ่มสีสดใส ลวดลายดอกเดซี่ และกางเกงขาสั้นเบอร์มิวดา สะท้อนให้เห็นถึงความผ่อนคลายอันเปี่ยมไปด้วยอิสระเสรี กล่าวได้ว่าคอลเลคชั่นนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและการมองโลกในเชิงบวก เพื่อต้อนรับโลกที่กลับมาสดใสมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

COLOURS
สีชมพูอมเทา, สีเขียวอ่อน, สีเขียวเซลาดอน (celadon green), สีเขียวสาหร่าย (algae), สีฟ้าอ่อน, สีเหลืองสด
สีขาว, สีออฟไวท์, สีไอน้ำ (steam), สีเทาหิน (stone-grey), สีเหลืองผ้าไหมดิบ (raw-silk), สีน้ำตาลผ้าป่าน (hemp), สีน้ำตาลช็อกโกแลต, สีเทาคาร์บอน, สีดำ

LINES AND FABRICS
แจ๊กเก็ตพาร์กา double-jeu ใส่ได้ทั้งสองด้าน, แจ๊กเก็ตทรงตรงหรือแบบตกแต่งผ้าถักนิต, เสื้อกั๊กและแจ๊กเก็ตทรงตรง ทำจากผ้า Toilbright และผ้าคอตตอน เสื้อหนังลูกวัวที่มาพร้อมกับหนังลูกวัว (plume calfskin) แคนวาสกันน้ำ หรือ ทำจากผ้าคอตตอนป๊อปลินแบบ crackled และแคนวาสเคลือบแบบ crispy
แจ๊กเก็ตพาร์กาพร้อมฮูด สเวตเชิ้ตตกแต่งซิปและแจ๊กเก็ต ทำจากแคนวาสเคลือบแบบ armoured พิมพ์ลวดลายตารางมิลลิเมตร
แจ๊กเก็ตเสื้อกั๊กทำจากผ้า techno-paper และแจ๊กเก็ต-เสื้อกั๊ก ทำจากแคนวาสแบบ flamed crispy
แจ๊กเก็ตพาร์กา, สเวตเชิ้ตพร้อมฮูด และแจ๊กเก็ตทรงตรง ทำจากแคนวาสเคลือบแบบ armoured ปักเดินเส้นแบบ topstitch
สเวตเชิ้ตคอเต่าพร้อมซิป ทำจากผ้า Toilovent พิมพ์ลาย Mors et Gourmettes
แจ๊กเก็ตทรงตรง ทำจากผ้าลินินผสมแคนวาสฟอกสี
โค้ททรงตรง, สเวตเชิ้ตพร้อมซิปและฮูด, ทีเชิ้ตคอวีพร้อมซิป ทำจากหนังกวาง suede, ซิปสี และ หมุด saddle nails
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นปักลาย sailboat, กางเกงขาสั้นเบอร์มิวดาเอวรูด ทำจากหนังแพะ metis
เสื้อเชิ้ตทรงหลวมและแจ๊กเก็ตทรงตรง ทำจากหนังจระเข้เหลือบเงา
แจ๊กเก็ตพาร์กาคอเต่าพร้อมซิป และเสื้อโอเวอร์เชิ้ต ทำจากหนังแกะแบบ rubberized lambskin และปักเดินเส้นแบบลายอิสระ
เสื้อสวมศีรษะคอกลม, ทีเชิ้ตคอเสื้อตกแต่งกระดุม (Tunisian collar) เสื้อเชิ้ตแขนสั้นลาย puzzle ดอกไม้ ทำจากผ้าแคชเมียร์ หรือผ้าคอตตอน sea island
เสื้อสวมศีรษะ คอเสื้อแบบทวิสต์ หรือคอเสื้อตกแต่งกระดุม (Tunisian collar) ทำจากผ้าลินิน หรือซิลค์
คาร์ดิแกนและเสื้อสวมศีรษะคอกลม ทำจากผ้าแคชเมียร์ทอด้วยด้ายมูลิเน่ (mouliné) สีส้ม
เสื้อโปโลแขนสั้น ทำจากผ้าวูล 180 ตกแต่งด้วยกระเป๋าเสื้อหนัง
เสื้อเชิ้ตทรงหลวม โดยใช้ผ้าคอตตอนป๊อปลิน พิมพ์ลาย 3D Mors et Gourmettes สองชั้น, ทำจากผ้าคอตตอนผสมแคนวาส หรือผ้าไหมทวิล, ฉลุลาย Quadrige
เสื้อทีเชิ้ตทรงหลวม คอเสื้อตกแต่งกระดุม (Tunisian collar) ทำจากผ้าคอตตอน พิมพ์ลาย Mors et Gourmettes แบบ dévoré สองชั้น
ทีเชิ้ตคอวีพร้อมซิป ทำจากผ้าคอตตอนป๊อบลิน, ผ้าคอตตอน และผ้าลินินเนื้อบาง หรือผ้าคอตตอนแบบ crackled และผ้าไหมผสมแคนวาส
เสื้อเชิ้ตทรงหลวม แบบไม่มีปก ตกแต่งกระเป๋าเสื้อ ทำจากผ้าคอตตอนป๊อปลิน หรือผ้าคอตตอน cover
ทีเชิ้ตพร้อมซิป ทำจากผ้าคอตตอนผสมแคนวาส ปักลาย sailboat
กางเกงขายาวมีจีบ ทำจากผ้าคอตตอนยืด หรือผ้าคอตตอนดริล
กางเกงขายาวมีจีบเอวรูด ทำจากผ้าคอตตอนป๊อปลินแบบ crackled และปักลายแบบ topstitch
กางเกงทรงหลวม และกางเกงขาสั้นเบอร์มิวดามีจีบ ตกแต่งซิปสีและหมุด saddle nails ทำจากผ้าคอตตอนดริล หรือผ้าลินินแบบ flamed และผ้าคอตตอนผสมแคนวาส
กางเกงทรงหลวม และกางเกงขาสั้นเบอร์มิวดา ทำจากผ้าคอตตอนยืด
กางเกงขาสั้นเบอร์มิวดาเอวรูด ทำจากหนังลูกวัวที่มาพร้อมกับหนังลูกวัว (plume calfskin)
เสื้อสูทกระดุมสองเม็ด ทำจากผ้าวูลผสมแคนวาส และตกแต่งดีเทลด้วยผ้าซาติน

ACCESSORIES

กระเป๋า Bolide Skate หนังลูกวัว Togo, หนังวัวสีธรรมชาติ และหนังลูกวัว Swift พิมพ์ลาย, กระเป๋าผ้าแคนวาส military และหนังลูกวัว Togo, กระเป๋าเพาช์หนังลูกวัว Barénia Faubourg หรือหนังลูกวัว Volupto
ผ้าพันคอผ้าไหมทวิล พิมพ์ลาย Jardin de Calypso ขนาด 65 ซม.
จี้ห้อยคอทำจากแพลเลเดียมและเคลือบเอนาเมล หรือโลหะขัดเงา, กำไลข้อมือ Double Tour ทำจากหนังลูกวัว Swift
เข็มขัดเชือกถักตกแต่งตัวล็อคตะขอ, เข็มขัดเทคนิคอลนิตตกแต่งหัวเข็มขัดตัว H ทำจากรับเบอร์
นาฬิกา Hermès H08รองเท้าสนีกเกอร์แคนวาสทรงสูง, บู๊ตหุ้มข้อหนังแกะ suede, รองเท้าแตะหนังลูกวัว

VÉRONIQUE NICHANIAN AND CYRIL TESTE — CONVERSATION
บทสนทนา – Véronique Nichanian และ Cyril Teste

ในฤดูกาลนี้ Véronique Nichanian และ Cyril Teste ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ได้หวนกลับมาพบกันอีกครั้งในการร่วมงานกันเป็นครั้งที่สาม โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองได้เริ่มต้นจาก Act ที่ 1 นำเสนอแฟชั่นโชว์ในรูปแบบของภาพ “เบื้องหลัง” ภายในเวิร์คช็อปของ Hermès ที่ Pantin ซึ่งนับเป็นวิธีการแปลกใหม่ในการนำเสนอเสื้อผ้า ตามมาด้วย Act ที่ 2 แฟชั่นโชว์ที่จัดขึ้นภายใน Mobilier National กรุงปารีส ที่ซึ่งบันไดได้กลายมาเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกภายในสู่โลกภายนอก และผลงานครั้งล่าสุดกับ Act ที่ 3 การกลับมาของแฟชั่นโชว์ที่จัดขึ้นในบริเวณลานพื้นหินภายนอกอาคาร ที่ออกแบบโดย Auguste Perret โดยคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 นี้คือการเฉลิมฉลองแด่ความสุขที่ได้มาอยู่ร่วมกันในโลกอีกครั้ง

สำหรับโชว์ครั้งนี้จะมีผู้ชมจริงๆ มาร่วมชมกับคุณด้วย คุณคิดถึงพวกเขาไหม?

VÉRONIQUE NICHANIAN – แน่นอน การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้ชมคือสิ่งที่สำคัญมาก ในแฟชั่นโชว์ไม่มีอะไรจะมาแทนที่ความสัมพันธ์ของมนุษย์ได้ เพราะมนุษย์เปรียบเสมือนผู้มอบลมหายใจให้เสื้อผ้ามีชีวิต ประสบการณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญและทำให้เราเห็นว่าแต่ละคนมีวิธีการใส่เสื้อผ้าในแบบเฉพาะตัวอย่างไร
CYRIL TESTE – ผู้ชมจะได้เห็นเวทีในรูปแบบสามเหลี่ยมที่เราออกแบบให้มีความซับซ้อนแต่ลื่นไหลไปพร้อมกัน จะมีภาพนายแบบปรากฏอยู่บนจอมากมายหลากหลายขนาด รวมถึงจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งต้องขอบคุณจอภาพเหล่านี้ เพราะผู้ชมจะได้เห็นรายละเอียดและการเคลื่อนไหวในระยะใกล้
VN – เหมือนโชว์ที่ขยายใหญ่ขึ้น
CT – ใช่แล้ว ถูกต้อง มันเป็นความตั้งใจของผมในการก้าวข้ามเทคโนโลยี และบอกเล่าเรื่องราวมากกว่าแค่ถ่ายภาพวิดีโอของแฟชั่นโชว์ ทั้ง Véronique และผมต้องการเชื่อมต่อสื่อสารกับผู้ชมด้วยการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่อาจจำเป็นที่สุด แฟชั่นโชว์เปรียบเสมือนการนัดหมาย การบอกเวลา ณ ปัจจุบัน ซึ่งระบบที่เราตั้งขึ้นมายังถือเป็นเรื่องใหม่และเป็นการทดลอง แต่จุดประสงค์โดยรวมคือการเชื่อมต่อกับผู้คน

สถานการณ์ครั้งนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา รวมถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ไม่เพียงแค่ในโลกแฟชั่น แต่ยังรวมถึงทุกๆ วงการบนโลกใบนี้ คุณได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้บ้าง?

VN – เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมักจะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฉันต้องหาวิธีใหม่ๆ ในการออกแบบและนำเสนอเสื้อผ้า และฉันยังมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการเสาะแสวงหาวิธีการแสดงออกในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความต้องการในการมองโลกแบบใหม่

คุณได้ไอเดียในการจัดแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ที่สื่อถึงการเฉลิมฉลองแด่อิสรภาพได้อย่างไร?

CT – ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เราต้องการหาวิธีการใหม่ในการจัดแฟชั่นโชว์ที่ดูเหมือนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับโชว์นี้ เราไม่ได้จัดโชว์แบบธรรมดา ที่วางแผนจัดการเดินแบบปกติสำหรับนายแบบ แต่เราได้ออกแบบการเดินให้พวกเขาแต่ละคน โดยมีกล้องคอยจับภาพใบหน้า การเคลื่อนไหว และรายละเอียดต่างๆ ของช่วงเวลานั้น เราใช้จอภาพขนาดใหญ่คล้ายกับจอในโรงภาพยนตร์ และมีการถ่ายภาพเคลื่อนไหวของนายแบบในสไตล์เฉพาะตัวที่เราจัดไว้ให้เฉพาะสำหรับแต่ละคน ผมต้องการนำเสนอผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมของ Auguste Perret ผ่านวิธีการพิเศษของมุมมองแบบสมมาตร เรขาคณิต และสัดส่วน นอกจากนี้ ความผูกพันอย่างลึกซึ้งที่ Véronique มีต่อรูปทรงยังนำไปสู่การสร้างสรรค์อุปกรณ์บางอย่างที่ช่วยให้เรามองเห็นนายแบบได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าพวกเขาจะมีท่าทางการเคลื่อนไหวอย่างไร ผลลัพธ์ทุกอย่างล้วนเกิดมาจากการคำนวณอย่างแม่นยำ แม้ว่าผมมักจะชอบเปิดรับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าจะจัดแสดงแฟชั่นโชว์ที่มีผู้คนมาร่วมชมจริงๆ หรือทางออนไลน์ พวกเขาจะได้รับรู้เรื่องราวและประสบการณ์แบบเดียวกัน

Véronique คุณคิดถึงอะไรขณะกำลังออกแบบคอลเลคชั่นนี้?

VN – คอลเลคชั่นนี้คือการแสดงออกถึงความสง่างาม ความลื่นไหลและการเปลี่ยนแปลงของชีวิต รวมถึงจิตวิญญาณของการเดินเรือ ซึ่งเปรียบเสมือนการตอบสนองต่อความต้องการในการออกไปใช้ชีวิต คอลเลคชั่นนี้มีจุดมุ่งหมายคือการเชิญชวนให้ผู้คนออกไปท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความปรารถนาที่พวกเราทุกคนมีร่วมกัน

เราต้องการชีวิตที่มีอิสระมากขึ้น และได้พูดคุยกันอย่างผ่อนคลายมากขึ้น (แม้จะยังต้องระวังตัว) ดังนั้นเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้จึงเน้นไปที่โทนสีธรรมชาติ อย่างสีน้ำตาล ผ้าป่าน (hemp), สีเขียวสาหร่าย (algae), สีน้ำตาลช็อกโกแลต และยังมีโทนสีเข้ม โทนสีนุ่มนวลที่เข้ามาผสมผสาน ให้เกิดเอฟเฟกต์สีที่จางลงโดยแสงอาทิตย์ รวมถึงยังมีลายดอกไม้ขนาดใหญ่ เฉดสีสันสดใสของสีเหลืองสดและสีเขียวผักกาด นอกจากนี้ฉันยังได้เข้าไปค้นหาลายพิมพ์ที่เป็นมรดกของ Hermès และนำมาตีความใหม่ผ่านเทคนิคร่วมสมัย เช่น การใช้เทคนิคทอตาข่าย (mesh) เป็นต้น ฉันอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยอิสระ การเคลื่อนไหว และจิตวิญญาณของการอยู่เป็นคู่ (duality) ถึงแม้ว่าคอลเลคชั่นนี้จะสื่อถึงความมีอิสระเสรี แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความเป็นทางการอยู่ในนั้นเช่นกัน

แล้วคุณล่ะ Cyril คุณได้รับประสบการณ์จากแนวทางใหม่ๆ นี้อย่างไรบ้างและคุณตีความมันออกมาอย่างไร?

CT – Véronique ได้กล่าวไปทั้งหมดแล้วด้วยคำว่า “การเคลื่อนไหว” (momentum) ซึ่งมันเป็นพลังงานที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในโชว์นี้ จึงเป็นเหตุผลที่เราให้นายแบบเดินอย่างมีพลัง คล้ายกับคอนเซ็ปต์ของภาพที่มีชื่อว่า all over ซึ่งจิตรกรได้สาดสีลงไปบนแคนวาส หรือพ่นลงไปให้ทั่ว ผมอยากให้ผู้ชมรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่แท้จริง นอกเหนือจากรูปทรงแล้ว Véronique ยังมีอีกความหลงใหลในเรื่องของ “รายละเอียด” ในระหว่างโชว์ ผู้ชมจะเห็นรายละเอียดสำคัญที่หลากหลายบนจอภาพในระยะใกล้ อันเป็นรายละเอียดที่ในบางทีถูกมองข้ามไป และผมเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เกิดความหมายอันลึกซึ้งต่อโชว์

VN – ถูกต้องเลย สิ่งที่ฉันต้องการคือการแสดงออกถึงสไตล์ผ่านรายละเอียด รูปทรง และภาพโดยรวม ที่เป็นไปอย่างธรรมชาติและละเอียดรอบคอบ ซึ่งเป็นวิธีการที่เราคิดกันไว้แต่แรกและเป็นวิธีที่สำคัญที่สุด Cyril เข้ามาช่วยตอบโจทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยไอเดียของการแตกแขนงรูปแบบ ภาพ และการเคลื่อนไหวต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงใช้คำว่า “augmented show” (โชว์ที่ขยายใหญ่) เนื่องจากโชว์นี้เป็นดั่งการแสดงพิเศษ ที่เราได้เชิญผู้ชมมาร่วมชมไปกับเรา

บทสัมภาษณ์โดย Olivier Séguret