นาฬิกา อาร์โซ (Arceau) ถูกออกแบบโดย อองรี ดอริญี (Henry d’Origny) ในปี ค.ศ. 1978 ซึ่งได้แสดงออกถึงธรรมชาติอันเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว ด้วยความโดดเด่นของโครงร่างอันเหนือกาลเวลาซึ่งนำรูปแบบมาจากตัวเรือนทรงกลม พร้อมด้วย หูตัวเรือนแบบอสมมาตรที่ชวนให้นึกถึงรูปทรงของโกลน สำหรับผลงานอันสง่างามนี้ผลิตขึ้นในซีรีส์จำนวนจำกัด 24 เรือน ภายใต้รุ่น อาร์โซ ลิฟท์ ทูร์บิญอง เรปิติซิยง มินิทส์ โซ แบล็ก ที่ถ่ายทอดด้วยความประณีตของหน้าปัดลงยาเทคนิค กรองด์ เฟอ (grand feu) สีดำ เผยให้เห็นส่วนขับเคลื่อนอันทรงพลังของจักรกลที่แสนดึงดูดสายตา
โดยสามารถมองเห็นได้ผ่านส่วนที่ตัดออกเป็นรูปร่างของม้า ซึ่งเผยการทำงานของจักรกลอันซับซ้อนของระบบตีบอกเวลา หรือ มินิท เรปิติซิยง (minute repeater) ประกอบด้วยฆ้องคู่ที่หล่อหลอมไว้ด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างแท้จริง จากความซับซ้อนของจักรกลตามประเพณีอันประณีตแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาซึ่งผสมผสานไว้ด้วยอีกหนึ่งความพิเศษของเครื่องบอกเวลาชั้นสูง นั่นคือ ฟลายอิ้ง ทูร์บิญอง (flying tourbillon) นำมาบรรจุอยู่ภายในบริเวณส่วนคอของม้าและเผยให้เห็นผ่านช่องหน้าต่างทรงกลม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
สง่างามภายใต้โครงสร้างทูร์บิญองทรง ‘H’ คู่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายสัญลักษณ์ของบูติก แอร์เมส ณ โฟบูร์ก แซงต์-โตโนเร่ (Faubourg Saint-Honoré) ในกรุงปารีส พร้อมทั้งงานออกแบบอันโดดเด่นที่ครอบบน กรงทูร์บิญองและสะพานจักรของตลับลาน ซึ่งสะท้อนถึงรูปทรงของเหล็กดัดที่ตกแต่งทั้งบริเวณทางเข้า ราวบันได บันได และลิฟต์ อันล้วนเป็นการตกแต่งในสไตล์ปารีเซียง
เผยเสน่ห์อันงดงามนี้ด้วยเข็มชี้แบบฉลุและเรียวบาง ที่หน้าปัดของเรือนเวลายังสลับคั่นด้วยตัวเลขทรงลาดเอียง เชื้อชวนให้นึกถึงม้าซึ่งกำลังวิ่งควบอย่างสง่างามอันเป็นสัญลักษณ์ของคอลเลกชัน อาร์โซ ขณะที่ส่วนซึ่งตัดออกของหน้าปัดและฝาหลังกระจกแซฟไฟร์นั้นยังเผยให้เห็นการทำงานของกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ แมนูแฟคเจอร์ แอร์เมส เอช1924 และช่วยให้มั่นใจได้ถึงเสียงตีบอกเวลาอันก้องกังวานใสราวกับคริสตัลของจักรกลมินิท เรปิติยง พร้อมทั้งบรรจุภายในตัวเรือนไทเทเนียม วัดขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางได้ 43 มม. ที่ผสานไว้ด้วยสองความสลับซับซ้อนหลักแห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) โดยเรือนเวลาที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบาเรือนนี้ รังสรรค์ขึ้นอย่างเชี่ยวชาญภายในห้องปฏิบัติการ แอร์เมส ออร์โลเฌอร์ (Hermès Horloger) เช่นเดียวกับสายหนังจระเข้สีดำแบบด้าน
คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์แฟชั่นนั้นไม่เคยหยุดนิ่งและปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงความชื่นชอบในสไตล์เสื้อผ้าและแอคเซสเซอร์รี่ของแต่ละคนก็มีความหลากหลายและแตกต่างกันออกไป Club21 Multi-Label จึงเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นเดสทิเนชั่นที่ตอบโจทย์และสามารถมอบประสบ
Valentino นำเสนอกระเป๋าสุดคลาสสิกอันโด่งดัง Valentino Garavani Roman Stud วิวัฒนาการผลงานอันประณีตของหมุดอันเป็นซิกเนเจอร์ของเมซง ผ่านจอภาพเคลื่อนไหวสามมิติในสถานที่สุดพิเศษทั้งสี่แห่งทั่วทุกมุมโลกทั้ง New York’s Times Square, Tokyo’s Minami Aoyama,...
To present the upcoming Full Summer Men's and Women's collection, Tod's evocatively describes the atmosphere of a casual and relaxed Italian holiday lifestyle, where fun and joyful entertainments are the protagonists.
First introduced in Wardrobe 03 as part of the small leather goods collection, Salon 03 sees the development of the Turn Pouch in new sizes, colourways and material. It is now available in two sizes - small and medium.
'Chopard Loves Cinema' An Haute Joaillerie collection freely inspired by movie masterpieces. Representing so much more than an oft-repeated refrain, ‘Chopard Loves Cinema’ is the theme chosen by Chopard to mark its activities at the 75th Cannes Film Festival,
Innovation, Made in Italy and the Japanese culture meet in the new Dolce&Gabbana x Jujutsu Kaisen Special Collection, creating new synergies between art and style. The Jujutsu Kaisen universe, which became highly popular in Japanese culture, has inspired...
Following the opening of the FENDI boutique at The Shoppes at Marina Bay Sands in February 2022, the first 'World of FENDI'