Etro Women’s Wear Collection Autumn/Winter 2018/19

PreviousNext

คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวนี้ เอทโทร (Etro) พาไปยังดินแดนที่ขอบฟ้าไม่มีที่สิ้นสุด Veronica Etro ค้นพบแรงบันดาลใจจากวิวทิวทัศน์ของทวีปฝั่งตะวันตกผ่านแสงและเงาที่พาดผ่าน ถูกนำมาแปลความหมายใหม่ให้กลายเป็นลวดลายกราฟฟิกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะยุโรป แพทเทิร์นที่มีความชัดเจนสไตล์ศิลปะแนวอาร์ต เดโค (Art deco) อีนาเมลจิวเวลรี่ (Enamel Jewelry) และเทคนิคคัลเลอร์บล็อค (Color block) แบบสถาปัตยกรรมของอิตาเลียนแบบโพสต์ โมเดิร์น (Post-modern)

ภายในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว เน้นไปที่ลายพิมพ์ที่มีลวดลายสลับซับซ้อน ลวดลายที่ปรากฏอยู่บนเสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะถูกคำนวนด้วยหลักคณิตศาสตร์อย่างแม่นยำและทดสอบบนแบบจำลองสามมิติ เพื่อให้ได้ลายผ้าที่แม่นยำเหมาะสำหรับการตัดเย็บแต่ละชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ผ้าไหมจอร์เจีย (Georgette) น้ำหนักเบาและผ้าเครป (Crepe) ถูกยกระดับเพิ่มความซับซ้อนทำให้ได้ชุดเดรสที่มีความพริ้วไหวและบางเบา ผ้าพิมพ์ลายเชนิลล์ (Chenille) ถูกนำมาใช้งานบนเสื้อคาร์ดิแกน (Cardigan) ประดับพู่ (Fringed) และสวมทับชุดเดรส เสื้อถักนิตในคอลเล็กชั่นนี้กลายมาเป็นชิ้นเด่นของซีซั่นด้วยการตัดเย็บอย่างประณีตไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค้ท เสื้อเคป (Capes) ชุดเดรส และ เสื้อปอนโช (Ponchos) เสื้อโค้ทหนังกลับ (Suede) และขนเทียม (Faux fur) พร้อมด้วยแผงที่ถูกปักเหมือนการปักลายคลอสติส (Cross stitch) ด้วยขนวูล (Intarsia knit) เสื้อถักนิตตัวหนาถูกถักแบบกลับด้านในสไตล์ครอปเพื่อแสดงให้เห็นถึงการถักแบบซับซ้อนและประณีต ลายแจ็คการ์ด (Jacquard) บนเสื้อโค้ทที่ปลายเสื้อโค้ทถูกตกแต่งด้วยพู่ (Fringe)

แพทเทิร์นที่หลากหลายนั้นมีตั้งแต่ลายกราฟฟิกลายกระดานหมากรุกที่เหมือนภาพลวงตา ลายเพสลีย์ (Paisley) เอกลักษณ์ของเอทโทรถูกนำมาตีความหมายใหม่: ลายพื้นเมืองที่ทำจากเทคนิคภาพพิมพ์ และแรงบันดาลใจจากผ้าแบนดานา (Bandana) การใช้สีขาวดำหรือลายจักรวาลดวงดาว ลวดลายต่างๆ สามารถเห็นได้ตลอดทั้งซีซั่นนี้ไม่เพียงเท่านั้นยังมีลายดอกไม้ ลายทางยาว หัวใจ ลูกศร และเทคนิคการเย็บตัดต่อผ้า (Naïve patchworks) ศิลปะแบบอาร์ต เดโค มอนทาค (Art Deco Montages) ร่วมกับสีสันต่างๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากพรมยุค 1920 สีสันโทนอบอุ่นอย่างสีเขียวใบเสจ (Sage green) สีช็อกโกแลต (Chocolate) สีแอพริคอต (Apricot) สีส้มไหม้ (Burnt orange) สีหางนกยูง (Peacock) สีไนท์บลู (Night blue) สีเหลืองมัสตาร์ด (Mustard) สีโทแบคโค (Tobacco) สีพาวเดอรี่ บริคส์ (Powdery brick) และสีแดงลอบสเตอร์ (Reddish lobster tones)

เค้าโครงของเสื้อผ้ามีกลิ่นอายของความโรแมนติก ชุดเดรสคอสูงและจีบที่พลิ้วไหว ผ้าคลุมไหล่หนังกลับ (Suede) นั้นตัดกับเนื้อผ้าบางเบา ในขณะที่ชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่บนชุดเดรสนั้นทำให้ดูพลิ้วไหวและมีชีวิตชีวา ชุดเดรสและเสื้อโค้ทถูกดีไซน์พร้อมกับผ้าพันคอที่พ่วงติดกันมาเพื่อให้ได้วอลลุ่มเวลาสวมใส่ กางเกงทำจากหนังทรงขากว้างในสีช็อกโกแลต (Chocolate) และ สีเหลืองอำพัน (Amber) มาในทั้งรูปแบบกางเกงขาสั้นและกางเกงขายาวทรงครอป แคชเมียร์พิมพ์ลายถูกดีไซน์ให้อยู่ในลุคชุดจ๊อกกิ้ง(Jogging suit) ถูกดีไซน์มาเป็นแบบกางเกงทรงหลวม ชุดนอนสีเหลืองบัตเตอร์ (Butter yellow) ถูกนำมาจับคู่กับลายดอกไม้ ชุดสูทบนผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard) ลายเพสลีย์ (Paisley) พ่วงมากับเสื้อเชิ้ตสไตล์ตะวันตก เพื่อให้ได้ลุคในสไตล์แบบมัสคิวลีน (Masculine)

เครื่องประดับได้รับแรงบันดาลใจมากจากศิลปะและงานฝีมือ กระเป๋าหนังประดับพู่ (Fringed leather saddlebags ) และสายสะพายแบบถักถูกตกแต่งด้วย เทคนิคการเย็บต่อผ้า (Patchwork) กำมะหยี่ และผ้าสักหลาด เข็มขัดที่ถูกปักสีสันหลากหลายถูกรัดด้วยทองเหลือง เงินและหัวเข็มขัดกระดูกปลอม จิวเวลรี่ชิ้นหนาถูกตกแต่งด้วยหินเทอร์ควอยส์ (Turquoise) หินปะการัง (Coral) และ หินไทเกอร์อายหรือพลอยตาเสือ (Tiger’s eye stones) สร้อยข้อมือทำด้วยเงินสไตล์ยุค 1920 ดีไซน์เพื่อให้ใส่ร่วมกันหลายชิ้น เข็มกลัดถูกกลัดอยู่บนปกเสื้อ รองเท้าบูทยาวถึงเข่าทำจากหนังลูกวัวนิ่มหรือหนังกลับสีคาราเมล (Caramel) สีน้ำตาลอมเทา (Taupe) และเหลืองอำพัน (Amber) ผ้าคลุมไหล่แบบผ้าห่มประดับด้วยพู่หนังกลับและเสื้อปอนโช (Poncho) หลากสี