Activating Water Essence 150 ml 2,400บาท
น้ำตบ Activating Water Essence เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงและฟื้นฟูผิว ทำให้น้ำตบตัวนี้กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของเจอร์ลีค (Jurlique)
อสเซ้นส์เนื้อบางเบาผสานกับสารสกัดจากธรรมชาติและได้กลายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกต่างในการดูแลผิวทั่วโลก ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติถึง 14 ชนิด Activating Water Essence ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและผิวสัมผัสได้จริง โดยการันตีได้จากประสบการณ์การใช้จริงของผู้หญิง 52 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 25 ถึง 50 ปี ทดลองใช้เป็นเวลา 14 วัน ...
Activating Water Essence นับเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่เหมาะกับทุกสภาพผิวอย่างไม่ต้องสงสัย และนี่คือความลับของผิวเนียนใสของแบรนด์เจอร์ลีค
พลังแห่งธรรมชาติ: สารสกัดจากธรรมชาติ 14 ชนิดที่อัดแน่นในขวดเดียว
น้ำตบ Activating Water Essence เต็มไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 14 ชนิดที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น บำรุง และฟื้นฟูผิว
ส่วนผสมที่ถือเป็นนางเอกของ Activating Water Essence ก็คือ สารสกัดจากราก Marshmallow ซึ่งได้รับการปลูกและดูแลอย่างดีที่ฟาร์มของเจอร์ลีคในเทือกเขาเมืองแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งราก Marshmallow นั้นมีคุณสมบัติพิเศษในการดึงดูดกักเก็บน้ำและให้ความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่องยาวนานให้แก่ผิว นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากดอกดาวเรือง และยาร์โรว์ ที่ช่วยในการปรับสภาพผิวเพื่อผิวนุ่ม รวมถึงสารสกัดจากใบพีชและใบโรสแมรี่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แลดูสุขภาพดี ผิวมีความสมดุลรู้สึกสดชื่นและพร้อมสำหรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป
วิธีใช้ Activating Water Essence
เพิ่มการบำรุงผิวด้วยน้ำตบ Activating Water Essence ในขั้นตอนการดูแลผิวของคุณ หลังจากทำความสะอาดใบหน้า ฉีดพรมมิสท์จนทั่วแล้ว แล้วให้หยด Activating Water Essence สองสามหยดลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆ ถูฝ่ามือเข้าด้วยกันเบาๆ เพื่อเป็นการอุ่นตัวเอสเซ้นส์ จากนั้นจึงกดลงเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าลำคอและหน้าอก ตามด้วยเซรั่ม ครีมบำรุงรอบดวงตา และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ชื่นชอบ เพื่อจบขั้นตอนการดูแลผิวทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างสมบูรณ์
เกี่ยวกับ Jurlique
เป็นเวลาเกือบ 35 ปีแล้วที่เราเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวพืชสมุนไพรจากฟาร์ม biodynamic บนเทือกเขาในเมืองแอดิเลด ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผ่านการทดสอบว่าเป็นสถานที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก เราดูแลฟาร์มของเราเช่นเดียวกับที่ดูแลสิ่งมีชีวิต โดยใช้วิธีการทางชีวภาพขั้นสูงเพื่อสร้างพืชสมุนไพรที่มีศักยภาพ และเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายต่อให้ผิวและสภาพแวดล้อมของเรา เราเก็บเกี่ยวสิ่งที่ดีที่สุด แล้วนำมาผสมรวมเข้ากับส่วนประกอบอันทรงพลังอื่นๆ ของกระบวนการ Bio-intrinsic ซึ่งเป็นกระบวนการพิเศษของแบรนด์ เพื่อสร้างสูตรการดูแลผิวตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพอันเป็นเอกลักษณ์
การปลูกพืชแบบ biodynamic ต่างจากการปลูกพืชแบบออร์แกนิกอย่างไร?
ระบบการปลูกแบบออร์แกนิกนั้นจะทำให้ได้พืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่ระบบการปลูกแบบ biodynamic นั้นพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพราะระบบแบบ biodynamic นั้นช่วยรักษาให้ผืนดินยังคงสภาพเดิมและยึดเวลาการปลูกและการเก็บเกี่ยวตามหลักทางโหราศาสตร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับบนปฏิทินพิเศษกำหนดไว้ การเกษตรแบบออร์แกนิกนั้นนิยามได้จากการใช้ปุ๋ยออร์แกนิกในการปลูก ขณะที่การเกษตรแบบ biodynamic ยึดติดกับทฤษฎีที่กล่าวมาข้างต้น การเกษตรแบบออร์แกนิกนั้นมีการใช้ปุ๋ยที่ผลิตจากภายนอก หากเป็นการเพาะปลูกแบบBiodynamicจะเลือกใช้ปุ๋ยที่ผลิตเองจากภายในฟาร์มให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งปลูกพืชหมุนเวียนโดยไม่นำพืชชนิดอื่นเข้ามาปลูก พร้อมทั้งทำการเตรียมดินให้มีบริสุทธิ์และอยู่ในสภาวะสมบูรณ์ที่สุดก่อนการเพาะปลูก เพื่อให้พื้นที่ในฟาร์มมีบรรยากาศที่ส่งผลดีแก่พืช ช่วยให้พืชมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายและมีคุณภาพที่ดีที่สุดเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว
Our founders – “ความฝันของเราคือการเชื่อมโยงผู้คนให้กลับไปสู่ธรรมชาติ ซึ่งการเชื่อมโยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับเราในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง” Ulrike Klein, ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Jurlique
Instagram: @Jurlique_th/ Facebook: JurliqueThailand / Line: @Jurliquethailand / Lazada: Jurlique Official
# jurliquethailand #NatureEvoved #Jurlique
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สกาวพร วจีพลกำแหง (ปุ่น) ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 096-229-5464
Vivienne Westwood และ Burberry ร่วมมือกันรังสรรค์คอลเลคชั่นสุดพิเศษ โดยได้ช่างภาพมากฝีมืออย่าง...
ในปัจจุบันชุดไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุดประจำชาติที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับชาติอื่นๆ ด้วยการออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีต บวกกับการสร้างสรรค์โทนสี และลวดลายบนผืนผ้าที่เกิดจากงานฝีมือของช่างไทยที่มีความพิถีพิถัน...
Nick Jonas และ Priyanka Chopra ตัดสินใจสละโสดหลังจากคบหาดูใจกันมาสักระยะหนึ่ง โดยทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกันสุดสัปดาห์นี้ โดยกำลังเดินทางไปสนามบินในมุมไบประเทศอินเดีย และจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานแต่งงานของพวกเขาในเมือง Jodhpur...
After officially launching its new CDG line last week, COMME des GARÇONS has now opened special installations for the collection at Dover Street Market locations around the world.
ทอดส์ (Tod’s) แบรนด์เครื่องหนังสัญชาติอิตาเลี่ยน นำเสนอไอคอนิคไอเท็มในฤดูใบไม้ร่วง - ฤดูหนาว 2018 กับรองเท้ากอมมิโน่ (Gommino) อันเป็นรองเท้ามอคคาซินยอดนิยมอันดับหนึ่งตลอดกาลจากทอดส์ ซึ่งในซีซั่นใหม่นี้ ทอดส์ได้เพิ่มเติมลูกเล่นและความพิเศษให้กับรองเท้ากอมมิโน่อย่างมากมาย...
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน และน่าสนในของคอลเล็กชั่นนี้ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์โทมัส ไมเยอร์ (Tomas Maier) จึงได้แบ่งคอลเล็กชั่นนี้ออกเป็นสามคอลเล็กชั่นย่อยๆ “เหมือนกับเป็นมินิคอลเล็กชั่น” Tomas Maier กล่าว “คอลเล็กชั่นแรกจะออกในเดือนพฤศจิกายน คอลเล็กชั่นต่อมาออกในเดือนธันวาคม และคอลเล็กชั่นที่สามในเดือนมกราคม...
SALVATORE FERRAGAMO UNVEILS THE STUDIO BAG ITS FIRST SIGNATURE HANDBAG LAUNCHED SINCE THE APPOINTMENT OF PAUL ANDREW AS WOMEN’S CREATIVE DIRECTOR.INSPIRED BY A POWERFUL SENSE OF CREATIVE KINSHIP...