จากความท้าทายในห้องปฏิบัติการสู่เรือนเวลาที่พร้อมให้คุณสัมผัส กับ นาฬิการะบบกลไกที่บางที่สุดในโลก "เพียเจต์ อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์"
หลังสร้างสถิติใหม่จนเป็นที่พูดถึงอย่างมากในงาน SIHH 2018 กับ "เพียเจต์ อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์" เรือนเวลาระบบกลไกที่บางที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากจะเปิดตัวด้วยความหนาเพียง 2 มิลลิเมตรแล้ว แบรนด์ยังผนึกเอานวัตกรรมรอบด้านไว้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความลับด้านโครงสร้างของกลไกและตัวเรือนที่ออกแบบให้ผสานเป็นชิ้นเดียว เม็ดมะยมดีไซน์เฉพาะที่กลมกลืนไปกับตัวเรือนและกระจกที่บางเฉียบ กลไกที่มีกำลังลานสำรองนานถึง 40 ชั่วโมง เป็นต้น
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า
“เรือนเวลาที่แสนจะซับซ้อนและเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงแบบนี้จะถูกผลิตเพื่อวางจำหน่ายหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้นไอเท็มชิ้นนี้จะเหมาะสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันสักแค่ไหน”
คำตอบของเพียเจต์ก็คือ Yes และ Yes นั่นเอง
โดยแบรนด์ให้เหตุผลว่า "เพียเจต์ อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์" ไม่ได้เป็นเพียงการเผชิญความ ท้าทายในระดับ Micro engineering อีกต่อไป แต่เป็นการทำงานร่วมกันอย่างหนักของเหล่าทีมนักพัฒนา วิศวกร ช่างนาฬิกา นักออกแบบ เพื่อส่งมอบเรือนเวลาที่เพรียวบางสู่ผู้ใช้งานตัวจริง และนี่คือ เส้นทางสู่ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จที่ทุกคนต่างรอคอย
From Drawing Board to Your Wrist
ย้อนกลับไปปี 1957 เพียเจต์ก้าวสู่โลกแห่งการปฏิวัติเรือนเวลาด้วยการเปิดตัวนาฬิกาดีไซน์บางเฉียบขึ้น ก่อนพัฒนาออกมาอีกหลายรุ่นจนกลายเป็นนาฬิการะบบกลไกที่บางที่สุดในโลก ณ ช่วงเวลานั้นๆ อาทิ 900P ปี 2014 (3.65 มิลลิเมตร) และ 910P ปี 2018 (4.3 มิลลิเมตร) โดยหลอมรวม 3 พาร์ทสำคัญอย่าง ตัวเรือน ฝาหลัง และ เมนเพลท เป็นชิ้นเดียว
เพื่อตอกย้ำดีเอ็นเอของ "อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์" และแนวคิดอันแสนขบถของแบรนด์ เพียเจต์ออกเดินทางสู่ความท้าทายครั้งใหม่ ด้วยการสร้างสถิติความเพรียวบางอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้วยความหนาของตัวเรือนเพียง 2 มิลลิเมตร หรือเทียบเท่าความหนาของบัตรเครดิตที่วางซ้อนกันเพียง 2 ชั้นเท่านั้น มาพร้อมกลไกไขลานด้วยมือ Piaget 900P-UC ซึ่งทุกขั้นตอนล้วนถูกพัฒนาและสร้างสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Piaget’s Research and Innovation division
เริ่มจากการปรับโครงสร้างตัวเรือน เพื่อให้ฝาหลังทำหน้าที่เป็นฐานรองรับกลไกไปในตัว รังสรรค์ด้วยวัสดุใหม่อย่าง โคบอลต์ผสมอัลลอยด์ที่ถูกพัฒนาให้แข็งและทนทานมากกว่าทองคำถึง 2.3 เท่า ส่งผลให้ตัวเรือนไม่โค้งงอแม้จะมีความบางอย่างสุดขั้วก็ตาม
ขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ ถูกปรับขนาดให้รับกับความบางในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็น
A Finish Without Compromise
2 มิลลิเมตร...ความบางอันเหลือเชื่อของ "อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์" ที่ภายในซุกซ่อนชิ้นส่วนไว้ถึง 167 ชิ้นด้วยกัน โดยเกือบทั้งหมดถูกปรับขนาดลงเพื่อสร้างสถิติความบางแบบสุดขั้วให้สำเร็จ
แต่กระนั้นในแง่ความแม่นยำ เที่ยงตรงและทนทาน ก็เป็นสิ่งที่แบรนด์มิได้ละเลย โดยเฉพาะชื่อเสียงของเมซงด้านการผลิตกลไกที่ทำด้วยมือ ที่แต่ละชิ้นถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่เพียเจต์ปลูกฝังมาเป็นเวลานาน
แน่นอนว่า ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เหล่านี้คือความท้าทายที่แบรนด์ตั้งใจนำเสนอ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการตัดสินใจในแต่ละขั้น เพราะหากผิดพลาดเพียงน้อยนิด ก็อาจนำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงได้
แต่ทีมช่างศิลป์ของแบรนด์ก็ทำได้สำเร็จ ไม่เพียงแค่ขัดแต่ง "กลไก" ด้วยลายรัศมีพระอาทิตย์ และขัดเงาแบบซาตินเท่านั้น เพราะแม้แต่ "บริดจ์" ก็ยังถูกลบมุมและขัดแต่งอย่างงดงามเช่นกัน ปิดท้ายด้วยการเคลือบพีวีดีลงบนกลไกที่ช่วยเพิ่มความสะดุดตา ทั้งยังเข้ากันได้ดีกับตัวเรือนอีกด้วย
เพื่อสร้างสถิติความบางอันเหลือเชื่อ แบรนด์ยังเลือกใช้สายรัดข้อมือชนิดบางพิเศษ รังสรรค์จาก 2 วัสดุ ได้แก่ สายหนังจระเข้ และ สายถักสีน้ำเงิน ซึ่งด้านในบุด้วยหนังลูกวัว และ Kevlar เส้นใยไฟเบอร์ที่สังเคราะห์ขึ้นมาทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงเป็นพิเศษ เข้าคู่กับหัวสายนาฬิกาทำจากโคบอลต์ และตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตรได้อย่างลงตัว
Piaget Infinitely Personal - the Ultimate Luxury
Bespoke หรือ การปรับแต่งเรือนเวลาในแบบฉบับของตัวเอง ถือเป็นหนึ่งคีย์หลักที่แบรนด์ระดับลักชัวรี่ให้ความสนใจ อย่างเพียเจต์เองก็มีนวัตกรรมที่เรียกว่า "Style Selector" ที่เป็นที่รู้จักมากว่า 50 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกที่เพียเจต์ บูติค นิวยอร์ก
โดยวัตถุประสงค์ ณ ขณะนั้น เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาลูกค้าสามารถปรับแต่งเรือนเวลาได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกรูปแบบของตัวเรือน วัสดุที่นำมาทำเป็นหน้าปัดและสายรัดข้อมือ ไปจนถึงขนาดของอัญมณีที่นำมาประดับ
จากจุดเริ่มต้นในอดีต ส่งผลให้เพียเจต์ บูติคทั่วโลกนำนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้ เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากที่สุด ดังผลลัพธ์ที่ปรากฏบนเรือนเวลา "อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์" ที่ลูกค้าเลือกปรับแต่งสีสันของบริดจ์และหน้าปัด, ขัดแต่งเข็มนาทีและเมนเพลท รวมถึงเลือกสายนาฬิกาที่เข้ากับสไตล์ของตนเอง เรียกได้ว่าสามารถปรับเปลี่ยนลูกเล่นได้มากกว่า 10,000 สไตล์ โอกาสที่จะซ้ำกับคนอื่นจึงแทบจะไม่มีเลยทีเดียว
Piaget – the King of Ultra-thin
ไม่นานมานี้ สุนทรียศาสตร์อันเย้ายวนใจของเรือนเวลา ทั้งในเรื่องความบางและโค้งเว้าถูกหลายแบรนด์นำมาปัดฝุ่นใหม่จนเป็นที่ถูกใจเหล่านักสะสมอย่างมาก แต่สำหรับเพียเจต์...แบรนด์กลับคงความเหนียวแน่นในการรังสรรค์เรือนเวลาที่มีความเพรียวบางเป็นพิเศษเรื่อยมา นับตั้งแต่เปิดตัวกลไก 9P ในปี 1957
ย้อนกลับไปยุคบุกเบิกราวปี 1874 แม้เพียเจต์จะเป็นเพียงโรงงานผลิตชิ้นส่วนกลไก แต่แบรนด์แทบไร้คู่ต่อสู้ในด้านการสร้างสรรค์และพัฒนากลไกชั้นสูง ทั้งยังสร้างชื่อให้ผู้คนทั่วโลกต่างรู้จัก "อัลติพลาโน" ในฐานะเรือนเวลาที่บางอย่างสุดขั้วอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
ไปจนถึงการใส่ฟังก์ชั่นต่าง ๆ กลไกสเกเลตันประดับเพชร และ กลไก 670P ปี 2017 ที่มาพร้อมฟลายอิ้ง ตูร์บิญอง แบบบางพิเศษ
จากนี้นอกจาก "อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์" จะทำหน้าที่สืบสานประเพณีอันเก่าแก่ของเมซงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ยังเป็นที่จับตามองของเหล่าวอทช์ เลิฟเวอร์ด้วยว่า ทิศทางของเรือนเวลาที่แบรนด์จะรังสรรค์รุ่นต่อไปจะเป็นเช่นไร แม้จะยังไม่รู้คำตอบ แต่ที่แน่ ๆ มันคือคำถามแห่งอนาคต ที่รอให้ทุกคนมาพิสูจน์พร้อมกัน
สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678
Vivienne Westwood และ Burberry ร่วมมือกันรังสรรค์คอลเลคชั่นสุดพิเศษ โดยได้ช่างภาพมากฝีมืออย่าง...
ในปัจจุบันชุดไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุดประจำชาติที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับชาติอื่นๆ ด้วยการออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีต บวกกับการสร้างสรรค์โทนสี และลวดลายบนผืนผ้าที่เกิดจากงานฝีมือของช่างไทยที่มีความพิถีพิถัน...
Nick Jonas และ Priyanka Chopra ตัดสินใจสละโสดหลังจากคบหาดูใจกันมาสักระยะหนึ่ง โดยทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกันสุดสัปดาห์นี้ โดยกำลังเดินทางไปสนามบินในมุมไบประเทศอินเดีย และจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานแต่งงานของพวกเขาในเมือง Jodhpur...
After officially launching its new CDG line last week, COMME des GARÇONS has now opened special installations for the collection at Dover Street Market locations around the world.
ทอดส์ (Tod’s) แบรนด์เครื่องหนังสัญชาติอิตาเลี่ยน นำเสนอไอคอนิคไอเท็มในฤดูใบไม้ร่วง - ฤดูหนาว 2018 กับรองเท้ากอมมิโน่ (Gommino) อันเป็นรองเท้ามอคคาซินยอดนิยมอันดับหนึ่งตลอดกาลจากทอดส์ ซึ่งในซีซั่นใหม่นี้ ทอดส์ได้เพิ่มเติมลูกเล่นและความพิเศษให้กับรองเท้ากอมมิโน่อย่างมากมาย...
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน และน่าสนในของคอลเล็กชั่นนี้ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์โทมัส ไมเยอร์ (Tomas Maier) จึงได้แบ่งคอลเล็กชั่นนี้ออกเป็นสามคอลเล็กชั่นย่อยๆ “เหมือนกับเป็นมินิคอลเล็กชั่น” Tomas Maier กล่าว “คอลเล็กชั่นแรกจะออกในเดือนพฤศจิกายน คอลเล็กชั่นต่อมาออกในเดือนธันวาคม และคอลเล็กชั่นที่สามในเดือนมกราคม...
SALVATORE FERRAGAMO UNVEILS THE STUDIO BAG ITS FIRST SIGNATURE HANDBAG LAUNCHED SINCE THE APPOINTMENT OF PAUL ANDREW AS WOMEN’S CREATIVE DIRECTOR.INSPIRED BY A POWERFUL SENSE OF CREATIVE KINSHIP...