Divine Proportion: คอนทัวร์และไฮไลต์ เคล็ดลับรูปหน้าสวยแบบ DIY

PreviousNext

1.68...นี่คือรหัสลับแห่งความงามบนใบหน้าที่ได้รูปสมบูรณ์แบบอัตราส่วนใบหนของคนสวย ตัวเลขที่ว่านี้คืออัตราส่วนทองคำหรือ Golden Ratio ที่ซ่อนเร้นอยู่ในสิ่งต่างๆ รอบตัวมนุษย์มาตั้งแต่สมัย โบราณ แม้แต่พีระมิดแห่งกีซาที่มีอายุกว่า 4,600 ปี ก็ได้รับการสืบค้นและพิสูจน์แล้วว่ามีโครงสร้างที่ได้อัตราส่วนที่ว่านี้ และแม้แต่ศิลปินนักกายวิภาคผู้มีผลงานโดดเด่นในเรื่องการศึกษาสรีระของมนุษย์อย่างเลโอนาร์โด ดาวินซี่ (Leonardo Da Vinci) แห่งยุคเรอเนสช็องส์ ผู้เป็นที่มาแห่รหัสลับดาวินชีก็เชื่อในเรื่องนี้อย่างจริงจังจนถึงขั้นทำหนังสือรวมเล่มภาพเสก็ตช์หน้าคนและสิ่งต่างๆ ภายใต้ชื่อ De Divina Proportione (The Divine Proportion) เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ถูกพระจ้าสร้างขึ้นจากสัดส่วนเรขาคณิตเดียวกันทั้งสิ้น! และเมื่อพูดถึงโค้ดลับดาวินซีกับเรื่องความสวยความงาม แน่นอน ว่าต้องกล่าวถึงผู้หญิงปริศนานามโมนา ลิซา (Mona Lisa) ซึ่งถูกเขียนขึ้นมากับมือของเลโอนาร์โดตามอัตราส่วนทองคำที่ว่ากันว่าสร้างความพอใจให้กับผู้ที่มองเห็นได้อย่างน่าอัศจรรย์ อัตราส่วนทองคำถูกนำมาใช้กับวงการความงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการศัลยกรรม นพ.สตีเฟน มาร์ควอดต์ (Dr. Stephen Marquardt)แพทย์ศัลยกรรมชาวอเมริกันจึงคิดสร้าง Marquardt Beauty Mask หน้ากากใบหน้าตามอัตราส่วนทองคำขึ้นมาเหมือนเป็นแม่พิมพ์รูปหน้าที่สวยสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้มีซอฟต์แวร์ที่สามารถวิเคราะห์โครงหน้าโดยใส่รูปหน้าเพื่อรายงานผลการทดสอบ ซึ่งดาราฮอลลีวูดหลายคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้หญิงสวยแต่อาจไม่ได้คะแนนเต็มจากการทดสอบสัดส่วนทองคำนี้แม้อัตราส่วนทองคำมีการวัดอย่างละเอียด แต่หลักการง่ายๆ ทีสามารถเช็คได้ด้วยตัวเอง คือ นำความยาวของใบหน้ามาหารกับความกว้าง หากได้ที่ 1.6 ถือว่าได้สัดส่วนที่ดี หมายความว่ารูปหน้าที่สวยควรมีความยาว 1 % ของความกว้างของใบหน้า อีกสามตำแหน่งสำคัญคือจากไรผมมาถึงจุดกึ่งกลางของดวงตาไล่มาจนถึงปลายจมูกและมาสุดที่ปลายคาง จุดกึ่งกลางหน้าทั้งสามตำแหน่งนี้ต้องมีระยะห่างที่เท่ากันถึงจะเรียกว่าสวย

จึงไม่แปลกที่อัตราส่วนนี้กลายเป็นต้นแบบให้กับบรรดาหมอศัลยกรรม แต่หากใครไม่ต้องการพึ่งมีดหมอด้วยด้วยการควักกระเป้าจ่ายเงิน เมคอัพก็ช่วยเนรมิตสัดส่วนที่สวยงามได้หากรู้หลักการเน้นความโดดเด่นและซ่อนเร้นจุดบกพร่องบนใบหน้าด้วยการคอนทัวร์ (Contour) และไฮไลต์ (Highiight) ซึ่งสามารถปรับใช้ได้กับใบหน้าทุกรูปทรง แม้แต่เซเลบแถวหน้าอย่างคิม คาร์ดาเชียน (Kim Kardashian) ก็มีคอนทัวร์และไฮไลต์เป็นกฎเหล็กความงาม เพียงเข้าใจง่ายๆ ว่าคอนทัวร์หรือเฉดดิ้ง (Shading) คือการแก้ไขรูปหน้าโดยใช้บรอนเซอร์ (Bronzer) สีเข้มกว่าผิวเล็กน้อย ไลบริเวณกรอบหน้าหรือในจุดที่ต้องการแก้ไข เช่น ลดความใหญ่ของแก้ม ลดกรามและคางสองชั้นได้ หรือทำให้จมูกดูโด่งหรือเน้นรอยหยักบนปากให้ได้รูปทรงมากขึ้นด้วยการปัดบรอนเซอร์เพื่อสร้างมิติเหลี่ยมมุม ส่วนไฮไลต์ (Highight) คือการใช้รองพื้นที่สว่างกว่าผิวจริงเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับใบหน้า เช่น ทำหน้าที่เป็นคอนซีลเลอร์ (Concealer) ทาบริเวณใต้ตาเพื่อลดความหมองคล้ำ ดูสว่างและทำให้หน้าเด็กลง หรือไล้บนหน้าผากเพื่อให้หน้าผากดูกว้างและไล่มาจนถึงคางเพื่อให้หน้าดูเรียวเล็ก ทั้งบรอนเซอร์และไฮไลต์จึงเปรียบเป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ดีอย่างแปรงสำหรับสร้างรูปหน้า หรือการคอนทัวร์ หรือการใช้ฟองน้ำเพื่อเกลี่ยเฉดสีต่งๆให้เข้ากันและเพื่อการแต่งแต้มเพื่อความเนียนงามทั่วทั้งใบหน้า อาจต้องฝึกการใช้ฟองน้ำเพื่อให้เกิดความถนัดและสร้างเทคนิคของแต่ละคนปัจจุบันแบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ ทำบรอนเซอร์และไฮไลต์ออกมามากมายและสะดวกในการใช้มากขึ้น ทั้งบวอนเซอร์และไฮไลต์ไล่เฉดอ่อนจนถึงเข้มในพาแล็ตต์เดียว หรือแม้แต่ในรูปแบบแท่งคล้ายดินสอ ที่พร้อมเนรมิตรูปหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบอย่างรวดเร็วทันใจคลิปวิดิโอมากมายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะใช้เป็นครูในการสอนแต่งหน้าโดยต้องเข้าใจจุดบกพร่องหรือจุดเด่นของใบหน้าเพื่อจะแก้ไขหรือเพิ่มเติมตามวิธีการและเคล็ดลับการแต่งหน้า เพื่อให้ได้ความงามในลุคที่แตกต่างไปในแต่ละวัน.