Placeholder image

คาร์เทียร์ ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง เสนอนิทรรศการใหม่พลิกวงการ Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women

นิทรรศการใหญ่ครั้งแรกของโลกที่นำเสนอบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของคาร์เทียร์ สะท้อนสุนทรียศาสตร์แบบจีนที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ผู้หญิงและแฟชั่นทั่วโลก


คาร์เทียร์ร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง (Hong Kong Palace Museum: HKPM) ภูมิใจเสนอนิทรรศการสุดพิเศษ Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women (คาร์เทียร์กับผู้หญิง) ระหว่างวันที่ 14 เมษายน - 14 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นนิทรรศการสำคัญครั้งแรกที่ว่าด้วยบทบาทและอิทธิพลอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงในประวัติศาสตร์ คาร์เทียร์ โดยได้นำผลงานล้ำค่าจากการรังสรรค์ของคาร์เทียร์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับจิวเวลรี่ เรือนเวลา ศิลปวัตถุ หรือของตกแต่ง รวมทั้งบันทึกจากคลังผลงานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบันมาจัดแสดงให้ผู้สนใจได้ชม

"Cartier and Women" เผยเรื่องราวอันน่าหลงใหลเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของผู้หญิงกับจิวเวลรี่ พร้อมทั้งชูความเด่นของศิลปะจีนและศิลปะจากภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คาร์เทียร์ทั้งในด้านสไตล์การสร้างสรรค์ เทคนิคและวัสดุ ตลอดจนสุนทรียศาสตร์แบบจีนที่ส่งอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงและแฟชั่นทั่วโลก และยังแสดงให้เห็นแนวทางการทำงานของพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ที่เน้นนวัตกรรมในการภัณฑารักษ์นิทรรศการ และเป็นเครื่องพิสูจน์พันธกิจของพิพิธภัณฑ์ในอันที่จะอำนวยให้เกิดความร่วมมือระหว่างสาขา รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดบทสนทนาเชิงศิลปวัฒนธรรมระหว่างประเทศจีนกับดินแดนอื่นๆ ของโลก

เชิดชูบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของคาร์เทียร์
Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women พาผู้ชมไปสำรวจความผูกพันระหว่างผู้หญิงกับจิวเวลรี่ ผ่านชุดเรื่องเล่าที่ตราตรึงใจ และสะท้อนให้เห็นความผูกพันลึกซึ้งระหว่างคาร์เทียร์กับสตรีผู้ทรงอิทธิพลหลายต่อหลายคนทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยหนึ่งในไฮไลต์ของนิทรรศการ คือเรื่องราวของฌานน์ ตูแซงต์ (Jeanne Toussaint, 1887-1976) สตรีผู้บุกเบิกในสังคมชายเป็นใหญ่สมัยต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในสตรีที่ปฏิวัติวงการจิวเวลรี่สมัยใหม่ หลุยส์ คาร์เทียร์ (Louis Cartier, 1875-1942) ผู้นำรุ่นที่ 3 ของคาร์เทียร์ แต่งตั้งตูแซงต์เป็นผู้อำนวยการสร้างสรรค์ในปี 1933 โดยเธอเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ เข็มกลัดปองแตร์ (Panthère) ที่ตูแซงต์ออกแบบไว้เมื่อปี 1949 ซึ่งดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ (1896-1986) ได้ซื้อไปครอบครอง คือผลงานที่กำหนดนิยามใหม่ว่าจิวเวลรี่มีความหมายอย่างไรต่อผู้หญิง นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของมรดกที่ฌานน์ ตูแซงต์ได้สร้างไว้ และนับแต่ผลงานชิ้นนี้ถือกำเนิดขึ้น เสือแพนเตอร์ สัญลักษณ์ของความองอาจ ความเป็นอิสระและอำนาจ ก็กลายมาเป็นแม่แบบและสัญลักษณ์ของ คาร์เทียร์ ตูแซงต์ไม่เพียงสนับสนุนการให้อำนาจแก่ผู้หญิงผ่านการออกแบบจิวเวลรี่เท่านั้น แต่เธอยังเป็นตัวแทนที่เป็นรูปธรรมและเป็นผู้ส่งเสริมให้เกิดเสรีภาพใหม่เชิงทัศนคติ ที่โดดเด่นด้วยความเป็นหญิง จิตวิญญาณเสรี และอิสรภาพ การทำงานของเธอเปิดทางให้ผู้หญิงอีกหลายคนได้เข้ามาทำให้จิวเวลรี่ก้าวข้ามการเป็นแค่เครื่องประดับ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ตัวตนและจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายใน

Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women แบ่งเป็น 4 ส่วน โดยแต่ละส่วนมีแนวคิดที่ต่างกัน

  • นิทรรศการส่วนแรก “Royal and Aristocratic Women: Elegance and Prestige” ความสง่างามและเกียรติภูมิเชื้อพระวงศ์และสตรีชั้นสูง เชิดชูบทบาทสำคัญของเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงและสตรีชั้นสูงในยุคแรกของคาร์เทียร์ ช่วงศตวรรษที่ 19
  • นิทรรศการส่วนที่ 2 “New Women: Breaking with Tradition” หญิงยุคใหม่ที่ไม่ยึดติดกับม่านประเพณีเดิมๆ เป็นการสำรวจความก้าวหน้าในงานออกแบบจิวเวลรี่ ที่สะท้อนถึงการปลดแอกสตรี
  • นิทรรศการส่วนที่ 3 “Inquisitive Women: Cross-cultural Inspirations” ผู้หญิงที่แสวงหาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ: แรงบันดาลใจข้ามวัฒนธรรม ซึ่งจะนำพาไปชมอิทธิพลของศิลปะจากประเทศจีนและภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ที่สร้างชีวิตชีวาให้กับผลงานที่คาร์เทียร์รังสรรค์ขึ้นเพื่อผู้หญิง และสนองความใคร่รู้สิ่งแปลกใหม่อันเป็นปรากฏการณ์สากล
  • นิทรรศการส่วนสุดท้าย “Influential Women: Glamorous Legends” สตรีผู้ทรงอิทธิพล: ตำนานอันเจิดจรัส เป็นการสำรวจความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเครื่องประดับคาร์เทียร์กับสตรีสมัยใหม่และสตรีร่วมสมัยผู้เป็นไอคอน โดยผลงานชิ้นเด่นส่วนหนึ่งมาจากคอลเลคชั่นส่วนตัวของสตรีระดับบุคคลสำคัญและสตรีที่มีชื่อเสียง เช่น เกรซ เคลลี่ หรือเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก (1929-1982) สามนักแสดงชื่อดัง อลิซาเบธ เทย์เลอร์ (Elizabeth Taylor, 1932-2011) หลินชิงเสีย (Brigitte Lin) หลิวเจียหลิง (Carina Lau) และนักธุรกิจหญิงแพนซี่ โฮ (Pansy Ho)
  • สุนทรียศาสตร์แบบจีนส่งอิทธิพลอย่างสูงต่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงและแฟชั่นทั่วโลก


    ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้ทราบว่าศิลปวัฒนธรรมจีนได้ให้แรงบันดาลใจต่อการรังสรรค์ผลงานของคาร์เทียร์อย่างไรบ้าง ทั้งในแง่สไตล์การออกแบบรวมถึงวัสดุและฝีมือช่าง ผลงานบางชิ้นที่นำออกแสดง สะท้อนให้เห็นผลกระทบที่ศิลปะจีนมีต่อการพัฒนาไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงตลอดจนแฟชั่นทั่วโลก ตัวอย่างหนึ่งคือกระเป๋าเครื่องสำอางหรือกระเป๋าใส่ของชิ้นเล็กๆ สไตล์จีนที่ทำขึ้นเมื่อปี 1928 โดยอ้างอิงชามกระเบื้องสมัยคังซีในคอลเลคชั่นส่วนตัวของมิสเตอร์และมิสซิสหลุยส์ คาร์เทียร์ (1895-1952) คาร์เทียร์ทำจี้ หยิน-หยางขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1919 โดยได้แรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์ของลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นปรัชญาและศาสนาเก่าแก่ของจีน ส่วนเข็มกลัด “มังกรคู่ไล่ไข่มุก” ที่นำลวดลายยอดนิยมในศิลปะจีนมาใช้นั้น ถูกซื้อไปโดยฌานน์ ปาแก็ง (Jeanne Paquin, 1869-1936) ช่างเสื้อสตรีคนสำคัญคนแรกของฝรั่งเศส ขณะที่หยกเจไดท์ อัญมณีที่ชาวจีนนิยม มาปรากฏบนสร้อยคอที่บาร์บาร่า ฮัตตัน (Barbara Hutton, 1912-1979) สาวสังคมและสไตล์ไอคอนชาวอเมริกัน ได้รับเป็นของขวัญวันแต่งงานเมื่อปี 1933

    ดร.หลุยส์ อึง (Louis Ng) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงกล่าวว่า "นิทรรศการพิเศษครั้งนี้ตอกย้ำว่าฮ่องกงคือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรมนานาชาติระหว่างภูมิภาคตะวันออกกับตะวันตก และยังชูวิสัยทัศน์ระดับโลก รวมทั้งแนวทางภัณฑารักษ์เชิงนวัตกรรมของพิพิธภัณฑ์ ที่เน้นการศึกษาค้นคว้าที่เข้มข้นและคุณภาพเชิงวิชาการ ด้วยเรื่องราวที่น่าหลงใหลของสตรีผู้อยู่เบื้องหลังผลงานตั้งแสดงระดับสุดยอดเหล่านี้ เราหวังจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้สำรวจบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงผ่านกาลเวลา รวมทั้งเพิ่มความเข้าใจที่ผู้ชมมีต่อผลงานที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์แบบตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน"

    Cartier Collection (คาร์เทียร์ คอลเลคชั่น) คือตัวแทนของแก่นแท้ที่เป็นรูปธรรมของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก และ ได้เป็นพยานรับรู้ความเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมรวมทั้งเทรนด์แฟชั่นในสมัยต่างๆ ตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมามีการนำ Cartier Collection ไปแสดง ณ สถาบันวัฒนธรรมที่ทรงเกียรติสูงสุดของโลกกว่า 30 สถาบัน รวมทั้งพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ซึ่งมีการจัดแสดงมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2009 และ 2019

    ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง จะจัดรายการด้านการศึกษาหลายรายการควบคู่ไปกับนิทรรศการ “Cartier and Women” ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายทางวิชาการ การฉายภาพยนตร์ การแสดงดนตรีนาฏศิลป์ และเวิร์กช็อปงานศิลปะ โดยคาร์เทียร์สนับสนุนบัตรเข้าชมนิทรรศการแก่ผู้ด้อยโอกาสจำนวน 5,000 ใบ

    นิทรรศการพิเศษครั้งนี้เปิดแสดง ณ Gallery 8 ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 14 สิงหาคม 2023 บัตรเข้าชมนิทรรศการสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 120 เหรียญฮ่องกง บัตรสำหรับผู้มีสิทธิ์ได้รับส่วนลด ราคา 60 เหรียญฮ่องกง ผู้ถือบัตรสามารถเข้าชมได้ทุกห้องนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ เปิดจำหน่ายบัตรบนแพลตฟอร์มจำหน่ายบัตรของ West Kowloon Cultural District (เขตวัฒนธรรมเวสต์เกาลูน) และตัวแทนจำหน่ายบัตร

    Fashion

    Placeholder image

    VIVIENNE WESTWOOD AND BURBERRY REVEAL CAMPAIGN FOR THEIR COLLABORATIONVIVIENNE WESTWOOD AND BURBERRY REVEAL CAMPAIGN FOR THEIR COLLABORATION

    Vivienne Westwood และ Burberry ร่วมมือกันรังสรรค์คอลเลคชั่นสุดพิเศษ โดยได้ช่างภาพมากฝีมืออย่าง...

    Placeholder image

    เทคนิคการแต่งหน้าให้เข้ากับโทนสีของชุดไทย

    ในปัจจุบันชุดไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุดประจำชาติที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับชาติอื่นๆ ด้วยการออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีต บวกกับการสร้างสรรค์โทนสี และลวดลายบนผืนผ้าที่เกิดจากงานฝีมือของช่างไทยที่มีความพิถีพิถัน...

    Placeholder image

    งานแต่งแห่งปีระหว่างนักร้องหนุ่มสุดฮ็อต Nick Jonas และ Priyanka Chopra

    Nick Jonas และ Priyanka Chopra ตัดสินใจสละโสดหลังจากคบหาดูใจกันมาสักระยะหนึ่ง โดยทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกันสุดสัปดาห์นี้ โดยกำลังเดินทางไปสนามบินในมุมไบประเทศอินเดีย และจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานแต่งงานของพวกเขาในเมือง Jodhpur...

    Placeholder image

    COMME des GARÇONS has now opened special installations for the collection at Dover Street Market locations around the world

    After officially launching its new CDG line last week, COMME des GARÇONS has now opened special installations for the collection at Dover Street Market locations around the world.

    Placeholder image

    TOD’S FW18 GOMMINO COLLECTION


    ทอดส์ (Tod’s) แบรนด์เครื่องหนังสัญชาติอิตาเลี่ยน นำเสนอไอคอนิคไอเท็มในฤดูใบไม้ร่วง - ฤดูหนาว 2018 กับรองเท้ากอมมิโน่ (Gommino) อันเป็นรองเท้ามอคคาซินยอดนิยมอันดับหนึ่งตลอดกาลจากทอดส์ ซึ่งในซีซั่นใหม่นี้ ทอดส์ได้เพิ่มเติมลูกเล่นและความพิเศษให้กับรองเท้ากอมมิโน่อย่างมากมาย...

    Placeholder image

    Bottega Veneta Cruise 2019 collection

    เพื่อแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน และน่าสนในของคอลเล็กชั่นนี้ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์โทมัส ไมเยอร์ (Tomas Maier) จึงได้แบ่งคอลเล็กชั่นนี้ออกเป็นสามคอลเล็กชั่นย่อยๆ “เหมือนกับเป็นมินิคอลเล็กชั่น” Tomas Maier กล่าว “คอลเล็กชั่นแรกจะออกในเดือนพฤศจิกายน คอลเล็กชั่นต่อมาออกในเดือนธันวาคม และคอลเล็กชั่นที่สามในเดือนมกราคม...

    Placeholder image

    SALVATORE FERRAGAMO PRESENTS THE STUDIO BAG

    SALVATORE FERRAGAMO UNVEILS THE STUDIO BAG ITS FIRST SIGNATURE HANDBAG LAUNCHED SINCE THE APPOINTMENT OF PAUL ANDREW AS WOMEN’S CREATIVE DIRECTOR.INSPIRED BY A POWERFUL SENSE OF CREATIVE KINSHIP...

    Placeholder image

    MON TRÉSOR THE FENDI TREASURE BAG GROWS UP!

    FENDI’s Mon Trésor bucket bag gets a new look on the Women’s Fall/Winter 2018-19 catwalk, presented in a bigger size to carry all must have items and become the cool day bag of every woman’s dreams....

    Placeholder image

    F IS FOR… FENDI MANIA

    Are you ready to get obsessed with the FENDI MANIA Collection? Vivid colors and patterns lit-up the new Capsule Collection by FENDI, famed by its cool ‘FENDI/FILA’ logo created by Instagram artist @hey_reilly and re-appropriated by the House across Ready-To-Wear and Accessories...

    Placeholder image

    Giorgio Armani presents the Emporio Armani Spring/Summer 2019 collections in the hangar of Milano Linate Airport

    Giorgio Armani is pleased to announce Emporio Armani Boarding, a major show event to be held on 20th September 2018 in the hangar of the Milano Linate Airport...